ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่ แนะทำเอ็มโอยูโครงการตำรวจจีนลาดตระเวน ทดลอง 6 เดือน ก่อนประเมินผล บอกรัฐร่วมมือตำรวจสากลจับตาอาชญากรรมข้ามชาติ-ธุรกิจสีเทา

เมื่อวันที่ 13 พ.ย.66 นายพัลลภ แซ่จิว ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จ.เชียงใหม่ เผย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะหารือสถานฑูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อหารือโครงการตำรวจจีนลาดตระเวนในเมืองหลัก และเมืองรองของไทย เพื่อสร้างความมั่นใจ ความปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยวจีน ว่า

ส่วนตัวมองว่าเป็นโครงการที่ดี เพื่อเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวจีน ในไตรมาสสุดท้าย ให้เป็นไปตามเป้าหมาย จำนวน 4.4 ล้านคนเพื่อฟื้นฟูและกระตุ้นท่องเที่ยวให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง

ถ้าดำเนินโครงการดังกล่าว ต้องมีบันทึกความร่วมมือระหว่างประเทศ หรือเอ็มโอยู เพื่อวางแนวทางและกรอบความร่วมมือดังกล่าว ซึ่งใช้เป็นแนวทางปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ อาจเป็นโครงการนำร่อง 3-6 เดือน ก่อนประเมินผลว่า สำเร็จหรือไม่ ที่สำคัญต้องไม่กระทบอำนาจการสืบสวน สอบสวน จับกุม ของตำรวจไทยหรือเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อดำเนินคดี หรือดำเนินการตามกฎหมายไทย และตำรวจจีนต้องไม่ละเมิดอธิปไตย หรือแทรกแซงกระบวนการยุติธรรมด้วย เพราะเป็นความร่วมมือด้านท่องเที่ยวเท่านั้น

ขณะเดียวกันรัฐบาล ควรหาความร่วมมือกับตำรวจสากล หรืออินเตอร์โพล และตำรวจจีน เพื่อป้องกันด้านอาชญากรรมข้ามชาติ และธุรกิจสีเทา ที่แฝงตัวมากับนักท่องเที่ยวจีน เพราะตำรวจจีน อาจมีประวัติหรือแบล็กลิสต์บุคคลเหล่านี้อยู่แล้ว เพื่อติดตามบุคคลดังกล่าว พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับเจ้าหน้าที่ไทย เพื่อเฝ้าระวัง ติดตามความเคลื่อนไหวดังกล่าว เนื่องจากมีหน่วยข่าวกรองของจีน และหลายประเทศ มาปฏิบัติหน้าที่ในไทย โดยเฉพาะพื้นที่ชายแดนด้วย

อย่างไรก็ตาม เรื่องดังกล่าว ยังไม่ได้พูดคุยหารือกับคณะกรรมการสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดอย่างใด อาจนำประเด็นดังกล่าว มาหารือกัน ก่อนนายเศรษฐา และคณะ จะเดินทางมาเที่ยวงานประเพณีเดือนยี่เป็งหรือลอยกระทงที่เชียงใหม่ วันที่ 28 พฤศจิกายน จากนั้นนายเศรษฐา จะประชุมหารือกับภาคท่องเที่ยวของภาคเหนือ วันที่ 29 พฤศจิกายนนี้ อาจมีการพูดคุยเรื่องดังกล่าวในที่ประชุมด้วย

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน