พ่อร้อง การบ้านลูกสาว โรงเรียนดังขอนแก่น ให้กรอกข้อมูลส่วนตัว ผ่านไป 2 สัปดาห์ บ.ประกัน โทรมาเสนอขายผลิตภัณฑ์ วอนสื่อช่วยตรวจสอบ

วันที่ 20 พ.ย.2566 นายอำนาจ (นามสมมติ) พ่อนักเรียนชั้นประถมศึกษา โรงเรียนชื่อดังแห่งหนึ่งในจังหวัดขอนแก่น นำภาพถ่ายเป็นใบงานแบบฝึกหัดระบายสีที่ลูกสาวได้มาจากครูที่โรงเรียน มาให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบดู หลังถูกตัวแทนของบริษัทประกันชีวิต โทรศัพท์มาหาในวันหยุด เพื่อเสนอขายประกันและการออมเงินให้กับลูกสาว

โดยตัวแทนบริษัทประกันแจ้งว่า ได้เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลมาจากการบ้านที่ทางโรงเรียนให้เด็กนักเรียนทำส่งครู ซึ่งการบ้านดังกล่าวมีลักษณะเป็นใบงานให้นักเรียนเลือกระบายสีลงในภาพอาชีพในฝันของตนเอง ระหว่างอาชีพตำรวจ และ พยาบาล

โดยใบงานดังกล่าวยังให้ผู้ปกครองกรอกแบบสอบถาม เช่น 1.ท่านมีความประสงค์ให้บุตรของท่านเรียนถึงระดับใด 2.ท่านมีการเตรียมทุนการศึกษาให้บุตรของท่านแล้วหรือยัง 3.ท่านคิดว่าการวางแผนการเงินให้บุตรเพื่อเป็นทุนการศึกษาดีไหม 4.ถ้ามีสถาบันการเงินมาช่วยเก็บออม สนใจหรือไม่ และ 5.สร้างอนาคตเพื่อการศึกษาให้บุตรของท่าน สามารถเก็บออมได้เท่าไหร่ และให้เขียนชื่อ นามสกุล และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อลงในใบงานด้วย

นายอำนาจ เล่าว่า เมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกสาวของตนเองซึ่งเรียนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนี้ ได้การบ้านจากครูที่โรงเรียนมาทำที่บ้าน โดยเป็นใบงานที่ให้นักเรียนระบายสีลงในอาชีพที่ใฝ่ฝัน ซึ่งในใบงานมีอาชีพตำรวจและพยาบาล ตนเองก็ได้พาลูกทำการบ้านเหมือนปกติที่เคยพาทำ ซึ่งลูกตนไม่ได้เลือกอาชีพตำรวจและพยาบาลเป็นอาชีพที่อยากเป็น แต่เพื่อให้มีการบ้านส่งครู จึงให้ลูกระบายสีลงในทั้ง 2 อาชีพ และกรอกแบบสอบถามไปโดยไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเป็นเพียงการบ้านของลูกเท่านั้น

จนกระทั่งเมื่อวานนี้ (วันที่ 19 พ.ย.) เวลาประมาณ 10.00 น. มีตัวแทนบริษัทประกันชีวิต โทรศัพท์มาที่เบอร์มือถือของตนเอง แล้วเสนอขายประกันและการออมเงิน ด้วยความสงสัยและแปลกใจว่า บริษัทประกันได้เบอร์โทรมาได้อย่างไร จึงสอบถามกับตัวแทนประกันที่โทรมา

โดยตัวแทนประกันแจ้งว่า ได้เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลชื่อ นามสกุล มาจากใบงานที่โรงเรียนให้เด็กนำกลับไปทำการบ้านส่งครู เมื่อได้ยินคำตอบดังกล่าว ทำให้ตนเองรู้สึกถึงความไม่ปลอดภัยและตั้งคำถามกับทางโรงเรียนว่า เหตุใดจึงนำข้อมูลของนักเรียนและผู้ปกครองไปให้บริษัทประกัน โดยที่ผู้ปกครองไม่ทราบเรื่อง

นายอำนาจ เล่าต่อว่า หลังเกิดเรื่องขึ้น ตนเองได้นำเรื่องราวนี้โพสต์ลงในเฟซบุ๊ก ซึ่งก็มีผู้ปกครองคนอื่น ๆ ที่มีบุตรหลานเรียนอยู่ในโรงเรียนเดียวกัน และ เรียนอยู่โรงเรียนอื่น ๆ ในเมืองขอนแก่น หลายคน เข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ตนเองก็ถูกบริษัทประกันโทรหาเช่นกัน

โดยอ้างว่า ได้เบอร์โทรศัพท์และข้อมูลมาจากใบงานแบบเดียวกัน ทำให้บรรดาผู้ปกครองต่างไม่พอใจและสงสัยว่า โรงเรียนนำข้อมูลส่วนตัวไปให้บริษัทประกันโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากผู้ปกครองได้อย่างไร และเรื่องที่เกิดขึ้นผู้บริหารของโรงเรียนรับรู้หรือมีส่วนเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ จึงขอให้ออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นด้วย.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน