เรี่ยไรเงินค่ารถ ให้ 42 นศ.พยาบาลเข้ากรุง ยื่นร้องไม่อนุมัติกู้กยศ. เผยโดนโทรขู่ ด้านผู้ว่าฯสั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรมเร่งรัดเรื่องด่วน
จากกรณีนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ ม.เฉลิมกาญจนาศรีสะเกษ 20 คน นำโดย น.ส.ปัทมวรรณ พันธ์อุ่น อายุ 19 ปี น.ส.สุดารัตน์ ทัพธานี อายุ 19 ปี น.ส.สุนิตา ตอรอโป นักศึกษาคณะพยาบาลจาก จ.ปัตตานี น.ส.นูรียา มามะกูตง จาก จ.นราธิวาส น.ส.นูรยันนะฮ์ ยูโซ๊ะ จาก จ.นราธิวาส และนายอาหามะ ซาร์ จาก จ.ยะลาเบตง เข้ายื่นหนังสือร้องทุกข์กับนายบุญชวัฒน์ ปัญช์ณ์ญาแดง ผอ.กลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อร้องทุกข์ขอความช่วยเหลือ เนื่องจากนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 จำนวน 68 คน ยื่นเรื่องขอกู้เงินจากกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ไปนานหลายเดือนแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการอนุมัติ ทำให้นักศึกษาทุกคนได้รับความเดือดร้อน
สำหรับความคืบหน้า วันที่ 28 พ.ย.66 ที่ม.เฉลิมกาญจนาจังหวัดศรีสะเกษ บรรดานักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ พากันเดินเรี่ยไรเงินจากเพื่อนนักศึกษา เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปยื่นหนังสือร้องทุกข์ที่กระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ ขณะเดียวกันมีผู้บริหารของกองทุนกยศ.คนหนึ่ง โทรศัพท์มาข่มขู่กับแกนนำของนักศึกษาพยาบาลว่า ถึงแม้จะพากันนั่งรถไฟเข้ามายื่นหนังสือที่กรุงเทพฯ ก็จะไม่อนุมัติ เนื่องจากเอกสารหลักฐานยังไม่ครบถ้วนถูกต้องและมีที่จะต้องดำเนินการแก้ไขในหลายส่วน
น.ส.ปัทมวรรณ กล่าวว่า การที่พวกตนยื่นกู้เงินนั้น เป็นการยื่นกู้ตามสิทธิ์อันพึงมีพึงได้ เพื่อต้องการนำเอาเงินกู้มาใช้จ่ายในการดำรงชีพและเพื่อเป็นค่าเล่าเรียนพยาบาลศาสตร์ หากทางกองทุน กยศ.ได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่าเอกสารหลักฐานของพวกตนคนใดไม่ถูกต้องก็ควรที่จะต้องรีบดำเนินการแจ้งให้พวกตนได้ทำการแก้ไขเอกสารหลักฐาน เพื่อให้ครบถ้วนถูกต้อง ไม่ใช่นำเอาเรื่องของพวกตนไปเก็บไว้นานกว่า 8 เดือน โดยไม่แจ้งให้แก้ไข ทำให้พวกตนเดือดร้อนมาก แต่ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากม.เฉลิมกาญจนา ให้ตนและนักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะพยาบาลศาสตร์ทุกคน สามารถเข้าห้องสอบและเรียนได้ตามปกติ
น.ส.ปัทมวรรณ กล่าวว่า พวกตนต้องการให้ทางกยศ. ให้ความเป็นธรรมกับพวกตน และควรที่จะพิจารณาอนุมัติเงินกู้ยืม เพื่อการศึกษาให้กับพวกตนโดยด่วนด้วย โดยควรที่จะแยกแยะออกไปว่าหากใครมีเอกสารหลักฐานครบถ้วนถูกต้องก็สมควรที่จะได้รับการอนุมัติให้กู้เงินได้ ไม่ใช่เหมารวมไปทั้งหมด และทำให้พวกตนคณะนักศึกษาพยาบาลศาสตร์ชั้นปีที่ 1 ทั้ง 42 คนไม่ได้รับการอนุมัติให้กู้เงินได้ ซึ่งการที่กองทุน กยศ.ทำเช่นนี้ จะทำให้พวกตนและนักศึกษาคณะพยาบาลศาสตร์ทุกคนอาจจะไม่ได้เรียนต่อและเสียโอกาสที่จะเรียนรู้วิชาพยาบาลให้สำเร็จ เพื่อออกไปทำงานรับใช้สังคม โดยได้หมายกันแล้วจะส่งตัวแทนจำนวนหนึ่งขึ้นรถไฟ เพื่อเข้ามายื่นหนังสือร้องทุกข์กับ รมว.การคลัง ที่กระทรวงการคลัง กรุงเทพฯ ในวันที่ 29 พ.ย.66 เวลา 09.00 น.
นพ.ชลวิทย์ หลาวทอง ผอ.รพ.ศรีสะเกษ กล่าวว่า ตนเห็นว่านักศึกษาพยาบาลทุกคนมีความตั้งใจที่จะเล่าเรียนหนังสือหาความรู้วิชาพยาบาลอย่างเต็มที่ ดังนั้นเห็นว่าหากไม่ได้รับการอนุมัติให้กู้เงินกองทุน กยศ.อาจจะทำให้นักศึกษาทุกคนขาดโอกาสในการเรียนรู้วิชาชีพพยาบาล จึงขอฝากไปถึงผู้มีอำนาจในการพิจารณาอนุมัติเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า หากไม่ขัดต่อระเบียบกฎหมายและผู้กู้รายใดมีเอกสารหลักฐานถูกต้องก็ควรที่จะเร่งรัดในการพิจารณาอนุมัติเงินกู้ให้โดยด่วนที่สุด และหากว่านักศึกษารายใดที่ยื่นกู้แล้วเอกสาร หลักฐานไม่ถูกต้องก็ควรที่จะรีบแจ้งให้นักศึกษาที่เอกสารหลักฐานไม่ถูกต้องเร่งดำเนินการแก้ไขเอกสารให้ถูกต้องเพื่อจะได้พิจารณาอนุมัติเงินกู้ให้นักศึกษาพยาบาลนำเอาเงินไปใช้ในการดำรงชีพ และเป็นค่าเล่าเรียนโดยด่วนต่อไป
นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวว่า กรณีเรื่องร้องทุกข์ของนักศึกษาพยาบาลชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยเฉลิมกาญจนาศรีสะเกษนั้น ตนได้รับทราบเรื่องแล้วและตนสั่งการให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดศรีสะเกษเร่งรัดในการดำเนินการประสานงานกับกองทุนกยศ. โดยด่วนที่สุด โดยได้มีการประสานงานไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 27 พ.ย.66 ซึ่งเป็นวันที่ได้รับเรื่อง
ส่วนการพิจารณานั้น เป็นอำนาจหน้าที่ของกองทุน กยศ. เมื่อตนได้ทราบเรื่องความเดือดร้อนของลูกหลานนักศึกษาก็ได้เร่งดำเนินการทันที และทราบว่าขณะนี้ทางกองทุน กยศ.ได้ดำเนินการแก้ไขเรื่องนี้แล้ว โดยทราบว่ามีเอกสารหลักฐานบางส่วนไม่ถูกต้อง ซึ่งทาง กยศ.จะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อเป็นการให้การช่วยเหลือนักศึกษาพยาบาลที่ต้องการกู้เงินไปใช้เพื่อการศึกษาและเป็นค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพโดยด่วนต่อไป
