บริษัทไฟเซอร์ เปิดโรงงานผลิตวัคซีน เชิญสื่อมวลชนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดินทางสู่ เบลเยี่ยม ร่วมอบรมเสวนาความรู้ทางวิชาการ ให้ความสำคัญเข็ม “บูสเตอร์” เผยแผน เข็มเดียว แบบ 2 in 1 สร้างภูมิคุ้มกันทั้งโควิด – ไข้หวัดใหญ่
ฉีดกี่เข็มแล้ว? แม้สถานการณ์โควิด-19 (COVID-19) เริ่มคลี่คลายแม้ผู้ติดเชื้อทั่วโลกจะลดลง มวลมนุษยชาติได้เรียนรู้และปรับตัวให้อยู่ร่วมกับเชื้อโรคอุบัติใหม่ตัวนี้ ซึ่งแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว คร่าชีวิตผู้คนทั่วโลกไปมากมายหลายล้านคนแล้วก็ตาม แต่อย่าลืมว่า โควิด-19 ยังคงอยู่ เชื้อโรคร้ายนี้ยังไม่ได้หายไปจากโลกใบนี้ ที่สำคัญยังกลายพันธุ์ไปเรื่อยๆ
กรมควบคุมโรค ระบุ สถานการณ์ผู้ติดเชื้อ โควิด-19 รายสัปดาห์ ในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 3-9 ธ.ค.2566 ผู้ป่วยรักษาตัวในโรงพยาบาล (รายสัปดาห์) จำนวน 590 ราย เฉลี่ยรายวัน จำนวน 84 ราย/วัน ผู้เสียชีวิต (รายสัปดาห์) จำนวน 5 ราย เฉลี่ยรายวัน จำนวน 1 ราย/วัน ผู้ป่วยสะสม 36,794 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค.2566) เสียชีวิตสะสม 831 ราย (ตั้งแต่ 1 ม.ค.2566)
เมื่อยังไม่มีวัคซีนที่สามารถยับยั้งทำลายเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้หายขาด เรายังทำได้เพียงป้องกัน สวมหน้ากากอนามัยเป็นด่านหน้า ไม่รวมกลุ่มกับผู้คนจำนวนมากเพื่อลดความเสี่ยง ดังนั้น “บูสเตอร์” หรือ การฉีดวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกัน จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อช่วยลดโอกาสการติดเชื้อซ้ำ และลดอาการรุนแรงลงได้ ระหว่างการคิดค้นพัฒนาวัคซีนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
บริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) บริษัทยาสัญชาติอเมริกัน ผู้วิจัยและผลิตวัคซีนเพื่อใช้ฉีดกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเพื่อป้องกันไวรัส ถือเป็นผู้นำด้านวัคซีนป้องกันการติดเชื่อทางเดินหายใจ โดยช่วงโควิด – 19 ระบาดรุนแรงในระยะแรก และหมอทั่วโลกได้รับรู้ถึงพิษสงของเชื้ออุบัติใหม่ พร้อมตั้งชื่อว่า โควิด-19
บริษัทไฟเซอร์ไม่รอช้ารีบวิจัยค้นคว้าทดลองวัคซีนทันที ด้วยวิธีใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า mRNA ซึ่งไม่เคยมีการผลิตวัคซีนด้วยวิธีนี้มาก่อน ด้วยเม็ดเงินมหาศาลโดยไม่ได้พึ่งพาเงินจากรัฐบาล เพื่อลดขั้นตอนความล่าช้าของระบบราชการ สำหรับภารกิจเร่งด่วนเพื่อรักษาชีวิตประชากรโลก
แต่สิ่งที่ได้มานั้นสุดแสนคุ้มค่า เมื่อวัคซีนตัวใหม่ล่าสุดที่เรียกว่า mRNA ประสบความสำเร็จในปี พ.ศ.2020 ผ่านการอนุมัติส่งกระจายไปทั่วทั้งโลก สามารถช่วยลดอัตราการเสียชีวิตได้อย่างทันท่วงที ทุกวันนี้ไฟเซอร์ยังไม่จบภารกิจยังคงเดินหน้าวิจัยและผลิตวัคซีนอย่างต่อเนื่อง พร้อมส่งเทียบเชิญถึงผู้สื่อข่าวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เดินทางสู่ประเทศเบลเยี่ยม เข้าร่วมอบรมเสวนาความรู้ทางวิชาการ
สร้างความเข้าใจถึงสถานการณ์ปัจจุบัน ในยุคลองโควิด (Long COVID) หรือ Post Covid-19 Syndrome ภาวะของคนที่หายจากโควิด-19 แล้วแต่ยังต้องเผชิญกับอาการที่หลงเหลืออยู่ เชื้อโควิดหายจากร่างกายไปแล้ว แต่บางอาการกลับไม่หายไปด้วย เพื่อให้เห็นความสำคัญของการ “บูสเตอร์”
โดยได้รับความสนใจจากผู้สื่อข่าวหลายสำนัก ทั้งจากประเทศไทย มาเลเซีย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เข้าร่วมฟังการบรรยายเรื่องความรู้เกี่ยวกับวัคซีน ข้อเท็จจริงและอนาคต ความสำคัญของการเฝ้าระวังการฉีดวัคซีนและผลกระทบของการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ในประเทศ จากวิทยากรที่มีความรู้ มีชื่อเสียง
ประกอบด้วย Professor Tikki Pangestu Visiting Professor, (Yong Loo Lin School of Medicine, National University of Singapore) Dr.Leong Hoe Nam (Infectious Diseases Specialist, Mount Elizabeth Novena Hospital, Singapore) Mark Fletcher (M.D. the Lead, Emerging Markets Region Medical Affairs Respiratory Vaccines)
นอกจากนั้น บริษัท ไฟเซอร์ ยังเปิดโรงงานผลิตวัคซีน ตั้งอยู่เมือง Puurs ซึ่งมีที่ตั้งเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ สำหรับการจัดส่งวัคซีนไปทั่วยุโรปและทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว ให้ได้เห็นขั้นตอนการผลิต โดยมี Luc Van Steenwinkel (Site Leader Pfizer Manufacturing Belgium, Vice President Pfizer Biotech Operations) ให้การต้อนรับ
สำหรับโรงงานวัคซีนแห่งนี้ เป็นโรงงานของบริษัทไฟเซอร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีพนักงานถึง 5,000 คน ซึ่งไม่ได้ผลิตแค่วัคซีนโควิด-19 อย่างเดียว แต่ผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสโรคระบบทางเดินหายใจ โดยเน้น 6 ด้าน ได้แก่ วัคซีนอายุรศาสตร์ โรคอักเสบและโรคภูมิคุ้มกัน โรคหายาก ยาต้านการติดเชื้อ มะเร็งวิทยา มีสายการผลิตได้นาทีละ 600 โดส และมีความสามารถในการขนส่งได้อย่างรวดเร็วไปยังตลาด 175 แห่งทั่วโลก
ปัจจุบันไม่ได้มีแค่ไวรัสโควิด-19 ที่ยังระบาด แต่ยังมีไวรัสโรคอื่นๆ โดยเฉพาะช่วงนี้คือ ไข้หวัดใหญ่ อาการของโควิด และไข้หวัด คล้ายคลึงกัน ดังนั้นเพื่อควบคุมคุ้มครองสร้างภูมิคุ้มกันทั้งโควิดและไข้หวัดใหญ่ ในเข็มเดียว แบบ 2 in 1 ทีมนักวิจัยของบริษัทไฟเซอร์ กำลังพัฒนาวัคซีนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
เริ่มดำเนินการทดสอบไปแล้วและพบว่า สามารถสร้างภูมิคุ้มกันไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A และ B และโควิด ให้อาสาสมัครที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ซึ่งถือเป็นแผนงานใหญ่จุดมุ่งหมายสำคัญ อนาคตเข็มเดียวสร้างภูมิกันทั้งโควิด-19 และไข้หวัดใหญ่ จึงยังอยู่อีกไม่ไกล
