กอ.รมน.เด้งรับนโยบายรัฐ เร่งแก้ปัญหาไฟป่า หมอกควัน ฝุ่น 17 จังหวัดภาคเหนือ กทม.-ปริมณฑล ดึงประชาชนเข้ามาเป็นส่วนร่วมแก้ปัญหา

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.66 พ.อ.หญิงนุชระวี แจ่มจำรัส รองโฆษกกอ.รมน. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะเรื่องไฟป่า หมอกควัน รวมทั้งฝุ่นละออง PM2.5 ในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีความรุนแรงขึ้นทุกปี ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน

รวมทั้งระบบนิเวศ เศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง นายกรัฐมนตรี/ผอ.รมน. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ดังกล่าว โดยเน้นย้ำให้ทุกภาคส่วนบูรณาการร่วมกันรับมือ และแก้ไขปัญหาสถานการณ์ไฟป่าหมอกควัน และฝุ่นละออง มุ่งให้ความสำคัญกับอากาศสะอาด เพื่อสุขภาพและสภาพแวดล้อมที่ดีของคนไทย

พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ.ในฐานะ รอง ผอ.รมน. สั่งการให้ กอ.รมน.ภาค 3 และ กอ.รมน.จังหวัด 17 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 5 จังหวัด เร่งขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันฝุ่นละออง ควันพิษ PM 2.5 อย่างเป็นระบบ ด้วยการบูรณาการร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งระดับภูมิภาคและระดับจังหวัด ใช้กลไกความมั่นคงและกำลังทหารในการปฏิบัติเพื่อให้สอดรับกับมาตรการ 3 ระยะ คือ ระยะเตรียมการ ปฏิบัติการ และหลังการปฏิบัติการ

โดยวานนี้ (15 ธ.ค.) ผบ.ทบ./รอง ผอ.รมน. เดินทางตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่าภาค 3 อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมรับฟังการบรรยายสรุปการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน ในพื้นที่ 17 จังหวัดในภาคเหนือ พบจุดความร้อน เพิ่มขึ้นจากปี 2565 คิดเป็นร้อยละ 78.07 และพื้นที่เผาไหม้ เพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 67.42 ซึ่งจากการประเมินสถานการณ์ในปีนี้ มีแนวโน้มที่จะมีความรุนแรงมากขึ้น

กอ.รมน. โดย กอ.รมน.ภาค 3 จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการดับไฟป่า ตามคำสั่งคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ 1 ธ.ค.66 เพื่ออำนวยการ บูรณาการ เฝ้าระวังติดตามรวมทั้งประเมินสถานการณ์ รวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูลการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก

รวมทั้งบูรณาการการดับไฟป่าที่เกิดขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบร่วมกับหน่วยงานในส่วนภูมิภาค 17 จังหวัดภาคเหนือ โดยกำหนดเป้าหมายสำคัญจากข้อมูลสถิติในห้วงที่ผ่านมา รวมถึงข้อมูลจากโดรนลาดตระเวน และระบบดาวเทียม ด้วยการใช้กลไกความมั่นคงในทุกระดับ

ตลอดจนการระดมสรรพกำลัง กำลังพล ยุทโธปกรณ์ อากาศยานจากกองทัพ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เพื่อให้มีความพร้อมเข้าแก้ไขสถานการณ์

ในขณะเดียวกันเสริมสร้างการมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน ให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมกันแก้ไขปัญหา เพื่อให้เป็นไปตามมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 ปี 2567 ที่คณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืนได้กำหนดไว้

สำหรับการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และพื้นที่อื่นๆ พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาร่วมกันระดับพื้นที่ ถึงการลดปริมาณฝุ่นละออง ควบคู่ลดการเผาขยะทางการเกษตรจากตอซัง ฟางข้าว ด้วยการใช้นวัตกรรมต่างๆ อาทิ ใช้จุลินทรีย์ย่อยสลายตอซังฟางข้าวให้เป็นปุ๋ยบำรุงดิน

การใช้เทคโนโลยีโดรนเพื่อการเกษตรโปรยสารชีวภาพเร่งการย่อยสลายและบำรุงดิน และการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ฟางข้าว โดยใช้เครื่องจักรผลิตเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ดแบบเคลื่อนที่ เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีวิธีการจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

งดการเผาทำลายที่ก่อให้เกิดปัญหามลภาวะทางอากาศ รวมถึงจัดชุดประชาสัมพันธ์ลงพื้นที่ สร้างการรับรู้ให้เกษตรกรตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดจากการเผาในพื้นที่การเกษตร ปรับเปลี่ยนทัศนคติสู่การพัฒนาเป็นเกษตรสีเขียวตามแบบ BCG Model เพื่อลดมลพิษ ร่วมสร้างอากาศสะอาด และสร้างความมั่นคงด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศอย่างยั่งยืน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน