ระทึกกลางดึก! ทาวน์เฮ้าส์ทรุด ดึงบ้านที่อยู่ติดกันถล่ม 4 หลัง เจ้าของเล่านาทีหนีตาย ได้ยินเสียงปูนลั่น เพื่อนบ้านตะโกนให้รีบหนี มีแค่เสื้อผ้ากับมือถือติดตัว

เมื่อวันที่ 4 ม.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา นายพินิจ เติมบุญ นายก อบต.บ้านคลองสวน รับแจ้งว่ามีบ้านลักษณะเป็นทาวน์เฮ้าส์ขนาด 2 ชั้น ทรุดตัวได้รับความเสียหายหลายหลัง ภายในหมู่บ้านพักครู ใน ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เจ้าหน้าที่กองช่างและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องรีบไปให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเข้าจากถนนประชาอุทิศ 90 มุ่งหน้าวัดจันทร์แก้วเพชร ประมาณ 5 กิโลเมตร ด้านขวามือ พบเป็นทาวน์เฮ้าส์ขนาด 2 ชั้น ปลูกติดกันจำนวน 50 คูหา แบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 25 หลัง บริเวณทาวน์เฮ้าส์ด้านซ้ายมือ 4 หลัง เกิดการทรุดตัว บริเวณด้านหลังบ้านซึ่งเป็นห้องครัวและห้องน้ำพังถล่มลงมา เศษอิฐ เศษปูนหล่นลงมากองกับพื้น

บริเวณหน้าบ้านพบกำแพงบ้านและหน้าต่างแตกแยก จนเอนเอียงไปทางด้านหลังบ้าน โดยทางเจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อบต.บ้านคลองสวน ปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุ ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในบ้านและยังไม่อนุญาตให้เจ้าของบ้านเข้าไปเก็บทรัพย์สินภายในตัวบ้าน เหตุเกรงว่าจะเกิดอันตราย และเกิดการทรุดตัวเพิ่มขึ้นจนพังถล่ม

นายเล็ก อายุ 63 ปี หนึ่งในเจ้าของบ้านที่บ้านพังถล่ม เล่าว่า ตนเป็นพนักงานรับ-ส่งสินค้า อยู่ในบริษัทชื่อดังแห่งหนึ่ง โดยบ้านหลังดังกล่าวตนซื้อต่อมาจากครูที่เกษียณราชการไปเมื่อช่วง 20 ปีก่อน ในราคา 500,000 บาท ปกติจะพักอยู่กับลูกและภรรยารวมกัน 5-6 คน แต่เมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาลูก ไปซื้อบ้านอยู่อีกแห่งหนึ่ง ตนจึงอยู่บ้านหลังดังกล่าวเพียงคนเดียว








Advertisement

กระทั่งเมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม 66 ที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงปูนของบ้านซึ่งอยู่ติดกัน บ้านหลังดังกล่าวไม่มีผู้พักอาศัยมานานกว่า 2-3 ปี ได้ยินเสียงปูนลั่นมาโดยตลอด บางครั้งลั่นทุกชั่วโมง บางครั้ง ลั่น 2-3 ครั้งแต่ไม่ได้เอะใจอะไร

กระทั่งเมื่อเวลา 19.30 น.วันนี้ ในขณะที่ตนนั่งดูทีวีอยู่ชั้นล่างของตัวบ้านได้ยินเสียงปูนลั่นเหมือนเดิม และเหมือนลั่นในบ้านของตนด้วยจำนวน 2-3 ครั้ง ตนจึงลุกขึ้นเดินดูรอบบ้าน พบว่าปูนบริเวณหลังบ้านเริ่มหล่นลงมาจำนวนมาก ก่อนที่มีเพื่อนบ้านจะตะโกนเรียกตนให้รีบหนีออกมาจากตัวบ้าน

ในระหว่างที่ตนกำลังจะเดินออกจากบ้าน ยังได้ยินเสียงตัวบ้านลั่นอีก 2-3 ครั้ง ตนจึงรีบกระโดดออกทางหน้าต่างวิ่งหนีออกมาจากตัวบ้านรอดตายอย่างหวุดหวิด ทำให้ข้อเท้าด้านขวามีอาการปวดเจ็บ หลังจากที่ได้ออกมาจากตัวบ้านแล้วยืนดูตัวบ้านอยู่สักครู่ใหญ่ นึกขึ้นได้ว่าลืมโทรศัพท์อยู่ในบ้านจึงวิ่งเข้าไปเอาโทรศัพท์ในบ้าน ก่อนที่จะวิ่งหนีออกมาได้

หลังจากเกิดเหตุ ตนจะไปพักอาศัยอยู่บ้านลูกและคงต้องรอหน่วยงาน ในพื้นที่มาตรวจสอบและยืนยันโครงสร้างอีกครั้ง ซึ่งตนเป็นห่วงข้าวของที่อยู่ในบ้านเพราะมีหลายอย่าง ตอนที่ตนหนีออกมามีแค่เสื้อผ้าชุดเดียว กับโทรศัพท์มือถือเพียง 1 เครื่องเท่านั้น

กระทั่งเมื่อเวลา 23.00 น. ดร.ธเนศ วีระศิริ ที่ปรึกษาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เชี่ยวชาญ เดินทางมายังพื้นที่เกิดเหตุพร้อมเดินสำรวจโดยรอบ สันนิษฐานคาดว่าน่าจะเกิดจากฐานล่างของตัวบ้านเกิดการทรุดตัว จากที่ตัวบ้านหลังหนึ่งใน สังเกตด้วยสายตาพบว่าบ้านหลังดังกล่าวทรุดตัวมากกว่าหลังอื่นๆ ก่อนที่จะดึงบ้านข้างเคียงพ่วงลงไปด้วย

จึงประสานเจ้าหน้าที่ในตอนเช้าให้นำอุปกรณ์มาตรวจสอบระดับการทรุดตัวของตัวบ้าน ว่ามีเพิ่มเติมอีกหรือไม่และประชาสัมพันธ์เจ้าของบ้านไม่ให้เข้าไปในตัวบ้านโดยเด็ดขาด

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยปิดกั้นบริเวณที่เกิดเหตุไว้โดยรอบพร้อมประชาสัมพันธ์ไม่ให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าไปในจุดเกิดเหตุดังกล่าว เกรงว่าบ้านจะถล่มลงมาทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตพร้อมทั้งประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.บ้านคลองสวน เข้ามาอำนวยความสะดวกและป้องกันบุคคลอื่นเข้าไปลักทรัพย์สินภายในบ้านที่เกิดเหตุ

โดยหลังจากนี้จะประสานเจ้าหน้าที่โยธาจังหวัดสมุทรปราการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องนำอุปกรณ์เร่งเข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุโดยเร็วเพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน อีกทั้งจะจัดตั้งจุดลงทะเบียนพร้อมเยียวยาเจ้าของบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนในเบื้องต้น

ด้าน นายบุญเลิศ แสงพันธุ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เขต 7 สมุทรปราการ โพสต์เฟซบุ๊กข้อความ รายงานข่าวเหตุทาวน์เฮ้าส์ทรุดตัว โดยระบุว่า เกิดเหตุบ้านทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น ทรุดตัว ณ หมู่บ้านพักครู ต.บ้านคลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ จำนวน 3 หลัง

เจ้าของบ้านแจ้งว่า วันนี้ เวลา 19.00 น. บ้านเริ่มมีเสียงลั่นจากตัวบ้านและทรุดลง โดยเมื่อเกิดเหตุก็รีบวิ่งออกจากบ้าน จึงทำให้ไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บ แต่ประชาชนเจ้าของบ้าน มีความกังวลถึงแนวทางการช่วยเหลือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากบ้านเก่าอายุกว่า 20 ปี และมีบางหลังยังคงต้องผ่อนกับธนาคาร

และในวันพรุ่งนี้จะมีเจ้าหน้าที่โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสมุทรปราการ เข้ามาตรวจสอบถึงสาเหตุการทรุดตัวอีกครั้ง และนายพินิจ เติมบุญ นายก อบต.บ้านคลองสวน จะหาแนวทางการช่วยเหลือบ้านผู้เสียหายต่อไป ซึ่งทีมงาน ส.ส. จะติดตามการช่วยเหลือกรณีดังกล่าวอย่างใกล้ชิด

ภาพจากเฟซบุ๊ก บุญเลิศ แสงพันธุ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน