‘รมว.เพิ่มพูน’ เล็งปรับใหญ่ อัตรากำลังศธ. สั่งวิเคราะห์บทบาท ‘ศึกษาธิการภาค-ผู้ตรวจ’ ก่อนจัดทัพใหม่-หวังลดงานซ้ำซ้อน เพื่อประโยชน์ราชการเป็นสำคัญ

15 ม.ค. 66 – พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่ง ประเภทบริหารระดับ 10 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เสนอ จำนวน 9 ราย

โดยมีการโยกย้ายศึกษาธิการภาค(ศธภ.) มาเป็นผู้ตรวจราชการศธ. 4 ราย คือ นายชัยณรงค์ ป้องบ้านเรือ ศธภ. 7 เป็นผู้ตรวจราชการ ศธ.,นายชาตรี ม่วงสว่าง ศธภ. 15 เป็นผู้ตรวจราชการ ศธ.,นายชูสิน วรเดช ศธภ. 6 เป็นผู้ตรวจราชการ ศธ.และว่าที่ร้อยตรีเจษฎาภรณ์ พรหนองแสง ศธภ. 17 เป็นผู้ตรวจราชการ ศธ. นั้น

ขณะนี้จะยังไม่มีการแต่งตั้งศธภ.แทนอัตราว่าง โดยได้มอบหมายให้นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดศธ. ไปวิเคราะห์บทบาทหน้าที่ของศธภ. รวมถึงดูภาระงาน เพื่อประเมินอัตรากำลังในภาพรวม ส่วนจะยุบศธภ.หรือไม่นั้น ยังไม่สามารถบอกได้ ขอประเมินการทำงานในภาพรวมก่อน

อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา ศธ. ได้ตำแหน่งและอัตราเงินเดือนศธภ.มาจำนวน 12 อัตรา มีการแต่งตั้งศธภ.แล้ว 6 อัตรา เป็นเหมือนการทดลองการทำงาน คล้ายแซนล็อก ดังนั้นจึงต้องมาดูบทบาทหน้าที่และความจำเป็น

“ผมได้มอบหมายให้ ปลัดศธ. ไปวิเคราะห์การทำงานของศธภ.ที่ผ่านมา ว่า การมีศธภ. กับไม่มีศธภ. คุณภาพการทำงานเท่ากันหรือไม่ หากผลออกมาว่า เท่ากันก็ต้องตั้งคำถามว่า จำเป็นต้องมีศธภ.หรือไม่ โดยระหว่างนี้ให้รองศธภ. ปฏิบัติหน้าที่ไปพลางก่อน อย่างไรก็ตามทุกตำแหน่งล้วนมีความสำคัญไม่ว่าจะเป็นศธภ. หรือศึกษาธิการจังหวัด (ศธจ.) ดังนั้นการจะดำเนินการอะไร ต้องวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ก่อนตัดสินใจ เพื่อประโยชน์ทางราชการเป็นสำคัญ”พล.ต.อ.เพิ่มพูน กล่าว

นายสุเทพ กล่าวว่า จากนี้ต้องไปวิเคราะห์บทบาทหน้าที่ของศธภ. และผู้ตรวจราชการศธ. ว่ามีประเด็นใดที่ซ้ำซ้อนหรือไม่ หรือมีประเด็นใดที่เป็นบทบาทหน้าที่เฉพาะของแต่ละตำแหน่ง เพื่อนำมาวางแผนในเรื่องอัตรากำลังคน โดยต้องไปศึกษาข้อมูลตั้งแต่เริ่มมีศธภ. แล้วนำมาวิเคราะห์ ส่วนศธจ. ยังคงอยู่ เพราะถือเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญ

โดยที่ผ่านมามีการปรับบทบาท ตัดเรื่องการบริหารงานบุคคลออกไป และให้เน้นในเรื่องการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการศธ.ในระดับจังหวัดแทน เช่น การจัดทำแผนการศึกษาจังหวัด เป็นต้น ส่วนศธภ. 2 อัตรา ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ คือ ศธภ. 13 และศธภ. 8 ที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้ง ส่วนจะปรับมาเป็นผู้ตรวจราชการศธ. หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่การรัฐมนตรีว่าการศธ.

“กรณีนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องเร่งดำเนินการ และไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อยุบศธภ. เพราะทุกตำแหน่งมีความสำคัญ แต่เพื่อให้การทำงานในภาพรวมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากวิเคราะห์แล้วพบว่า ภาระงานของศธภ. และผู้ตรวจราชการมีความซ้ำซ้อนกัน ก็อาจให้ผู้ตรวจราชการปฏิบัติหน้าที่ใน 2 มิติ คือ ทั้งติดตามการทำงานตามนโยบายของศธ. และการนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติ ” นายสุเทพ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน