กรุงเทพฯ วิกฤตฝุ่นพิษ คนกรุงอ่วม จม PM2.5 หนัก พื้นที่สีแดง 5 เขต ภาพรวมทั้งประเทศ สาหัสเกินมาตรฐาน 4 จังหวัด

15 ม.ค. 67 – สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ หรือ จิสด้า กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ, กรมควบคุมมลพิษ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่

เกาะติดสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 แบบรายชั่วโมง ด้วยข้อมูลจากดาวเทียมผ่านแอปพลิเคชั่น “เช็กฝุ่น” พบว่า 4 จังหวัดที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐานอยู่ในพื้นที่สีแดง (กระทบสุขภาพ) คือ จ.สมุทรสงคราม 108 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) จ.สมุทรสาคร 101.2 มคก./ลบ.ม. จ.ราชบุรี 87.2 มคก./ลบ.ม. และจ.เพชรบุรี 77.6 มคก./ลบ.ม. และ พบอีก 22 จังหวัด ที่มีค่าเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีส้ม)

ในขณะที่กรุงเทพฯ พบค่าฝุ่น PM2.5 ในระดับที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ (พื้นที่สีแดง) จำนวน 5 เขต คือ จ.หนองแขม 83.8 มคก./ลบ.ม. ตามด้วยพระโขนง 83.6 มคก./ลบ.ม. บางนา 78.7 มคก./ลบ.ม. ดอนเมือง 78.6 มคก./ลบ.ม. และ หลักสี่ 75.2 มคก./ลบ.ม. ในส่วนของอีก 45 เขตที่เหลือพบคุณภาพอากาศที่มีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม

แอปพลิเคชั่น “เช็กฝุ่น” ยังคาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่าหลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงอยู่ในระดับที่เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพสีส้ม

ทั้งนี้ จากข้อมูลจุดความร้อนที่รายงานโดย จิสด้า ในวานนี้ (14ม.ค.) พบจุดความร้อนทั้งประเทศ 238 จุด ส่วนใหญ่พบในพื้นที่เกษตร 99 จุด ตามด้วยพื้นที่แขต สปก. 54 จุด พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 42 จุด ชุมชนและอื่นๆ 18 จุด พื้นที่ป่าอนุรักษ์ 17 จุด และพื้นที่ริมทางหลวง 8 จุด โดยจังหวัดที่พบจำนวนจุดความร้อนสูงสุด 3 อันดับแรก คือ จ.ชัยภูมิ 27 จุด จ.ลพบุรี 25 จุด และจ.นครราชสีมา 24 จุด

นอกจากนี้ ประเทศเพื่อนบ้านที่พบจุดความร้อน มากสุดอยู่ที่กัมพูชา 2,048 จุด ตามด้วย พม่า 239 จุด ลาว 139 จุด และ เวียดนาม 40 จุด

ประชาชนควรสวมหน้ากากตลอดเวลาเมื่ออยู่ในที่โล่งแจ้ง เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจตามมาโดยเฉพาะโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ ท่านสามารถติดตามข้อมูล PM2.5 แบบรายชั่วโมงเพิ่มเติมผ่านแอปพลิเคชัน “เช็กฝุ่น”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน