สังคมสลด! หัวโจก วัย 15 พาน้องในหมู่บ้าน ยกเค้าบ้านครู คึกปาร์ตี้ยา ต่อยภาพงานแต่ง โดนรวบสารภาพคึกคะนอง ยายขอโทษ เลี้ยงหลานไม่ดี

เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 17 ม.ค.2567 ที่ห้องปฏิบัติการสืบสวนสอบสวนชุด “พิรุณ” สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี พ.ต.ท.นิธิศ รอดคลองตัน รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.พร้อมด้วยตำรวจสืบสวน ชุด “พิรุณ”

ร่วมกันแถลงจับกุมเยาวชนชาย อายุระหว่าง 8-15 ปี ประกอบด้วย นายเพิก นามสมมติ อายุ 15 ปี หัวหน้าแก๊ง ด.ช.เอ อายุ 14 ปี ด.ช.บี อายุ 12 ปี ด.ช.ซี อายุ 11 ปี และ ด.ช.ดี อายุ 8 ขวบ ทั้งหมดเป็นชาวบ้าน ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี ในข้อกล่าวหา “ร่วมกันลักทรัพย์ ในเคหะสถาน”

ส่วนนายเพิก หัวหน้าแก๊ง ตำรวจแจ้งข้อหาเพิ่ม คือ “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” พร้อมของกลาง รถ จยย. ยามาฮ่า รุ่นฟิโน่ สีฟ้า 1 คัน รถจักรยานเสือภูเขา สีเหลือง 1 คัน ฟิวเจอร์บอร์ดสำหรับใช้เล่นเกมส์ปาลูกโป่ง 1 ชุด เสื้อผ้าของ นายเพิก หัวหน้าแก๊งที่ถอดทิ้งไว้ในบ้านของผู้เสียหาย 1 ชุด

พร้อมกระเป๋าสะพายสีดำข้างในมีไฟแช็ก กรรไกร มีดพับ มีดคัทเตอร์ อุปกรณ์การเสพยาบ้า และหลอดยาดม เหตุเกิดที่บ้านเลขที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ต.บ้านจั่น อ.เมืองอุดรธานี โดยมี นายวุฒินันท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ครูผู้เสียหายเจ้าของบ้าน และ น.ส.จุฑาทิพย์ (สงวนนามสกุล) อายุ 44 ปี ภรรยา ร่วมแถลงจับกุมครั้งนี้ด้วย

ทั้งนี้สืบเนื่องจากช่วงเย็นวันที่ 15 ม.ค. ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี ตรวจสอบเหตุคนร้ายงัดบ้านรื้อค้นข้าวของกระจัดกระจาย มีทรัพย์สินเสียหายและสูญหายหลายรายการ รวมมูลค่าประมาณ 1 แสนบาท

โดยคนร้ายยังจัดปาร์ตี้ยา ร้องคาราโอเกะและเป่าลูกโป่ง เพื่อเล่นเกมส์ปาโป่งกัน ที่สำคัญรูปภาพแต่งงานเจ้าของบ้านขนาดใหญ่ ถูกคนร้ายทำลายเสียหาย ก่อนหลบหนีไป พร้อมทรัพย์สินในบ้าน

จากการตรวจสอบตำรวจเชื่อว่า คนร้ายมีมากกว่า 2 คน และน่าจะเป็นเยาวชนในหมู่บ้าน เนื่องจากบ้านหลังเกิดเหตุไม่มีคนนอนเฝ้ามาประมาณ 2 สัปดาห์ และจากการสืบทราบและติดตามจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊งที่บ้านพัก พร้อมทรัพย์สินของกลางบางส่วน มาสอบสวนที่ สภ.เมืองอุดรธานี








Advertisement

สอบสวนนายเพิก หัวหน้าแก๊ง รับสารภาพว่า เป็นหัวหน้าแก๊ง เห็นบ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่หลายวัน เช้าวันอาทิตย์ที่ 14 ม.ค.จึงชวนน้องๆในหมู่บ้านรวมทั้งหมด 5 คน โดยตนเป็นคนใช้ค้อนงัดประตูหลังบ้าน

ก่อนพากันเข้าไปรื้อค้นขโมยทรัพย์สิน ต่อเครื่องเสียงร้องเพลงคาราโอเกะ และเล่นปาลูกโป่งกันภายในห้องรับแขก แล้วให้น้องๆ ช่วยกันขนทรัพย์สินออกไปทางรั้วหลังบ้าน ไปเก็บไว้ที่บ้านของตน ที่อยู่ห่างจากบ้านเกิดเหตุประมาณ 500 เมตร เพื่อนำไปขาย ซึ่งนำไปขายบางส่วนแล้ว

“วันเกิดเหตุตนหลบไปเสพยาบ้า 3 เม็ด ภายในห้องนอนของเจ้าของบ้าน จากนั้นใช้กำปั้นชกรูปแต่งงานเจ้าของบ้านฉีกขาดเสียหาย ที่ทำไปไม่ได้โกรธแค้นเจ้าของบ้าน แต่ทำไปด้วยความคึกคะนองเท่านั้น โดยพากันหนีออกจากบ้านไปช่วงค่ำวันเดียวกัน

ส่วนยาบ้าตนซื้อมาจากเพื่อนที่คุ้มผาสุก ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี ในราคาเม็ดละ 50 บาท และอยากกราบขอโทษครูผู้เสียหาย และสัญญาว่าจะเลิกเสพยาและงัดบ้านคนอื่นอีกแล้ว”

จากนั้น นายเพิก หัวหน้าแก๊งฟันน้ำนม ก้มลงกราบขอโทษครูและภรรยาเจ้าของบ้าน ซึ่งก็ให้อภัย พร้อมกับให้โอวาทกลับตัวกลับใจยังไม่สาย เพราะยังเป็นเด็กเยาวชนอยู่

นายวุฒินันท์ ครูผู้เสียหาย เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุตนมั่นใจว่าตำรวจคงติดตามจับคนร้ายได้อย่างแน่นอน และเมื่อคืนที่ผ่านมา ตนได้รับแจ้งจากชุดสืบสวนพิรุณ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าสามารถติดตามกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุได้ทั้งหมดแล้ว พร้อมของกลางที่ขโมยไปบางส่วน

ทีแรกนึกว่าคนร้ายเป็นผู้ใหญ่ติดยา แต่พอรู้ว่าเป็นเยาวชนอายุ 8-15 ปี ก็รู้สึกหดหู่ใจ ในฐานะตนเป็นครู ก็ให้อภัยเมื่อเขาสำนึกผิด และสัญญากับตนและภรรยาว่าจะไม่ทำอย่างนี้อีกแล้ว และฝากถึงครูที่สอนเด็กที่ก่อเหตุ และผู้ปกครอง ให้หมั่นดูแลเอาใจใส่ หรือเข้มงวดกับบุตรหลานให้มากกว่านี้

นางน้อย นามสมมติ อายุ 56 ปี ยายนายเพิก กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเลี้ยงแม่ของเพิกมาตั้งแต่เล็ก แม้เป็นหลานสามีเก่า แต่เลี้ยงเหมือนลูกจนแต่งงานมีครอบครัว และมีนายเพิกออกมา ตนยังได้มาเลี้ยงนายเพิกต่ออีก

ส่วนพ่อกับแม่ของนายเพิกแยกทางกันตั้งแต่ยังเล็กจึงอยู่กับตน ปกตินายเพิก มีพฤติกรรมแบบนี้ สิ่งของที่อยู่ในบ้านจะขโมยเอาไปขาย เงินที่ตนไปขายของที่ตลาดกลับมาบ้าน ก็มารื้อค้นเอาไปซื้อยาบ้ามาเสพ

ซึ่งนายเพิกเสพยาบ้ามาประมาณ 2 ปี ตนเคยสั่งสอนบอกว่า มีบ้านให้อยู่ มีข้าวให้กิน สิ่งของที่อยู่ในบ้านทำไมไม่รักษาเอาไว้ และเป็นคนดีได้เพียง 3 วัน ก็กลับมาทำพฤติกรรมแบบเดิมอีก

นางน้อย กล่าวต่อไปว่า หลังทราบข่าวนายเพิกพาน้องๆในหมู่บ้านไปงัดบ้านครู ตนรู้สึกเสียใจ และอยากขอโทษที่ดูแลสั่งสอนไม่ได้ดี เพราะต้องทำมาหากินไปขายของทุกวัน เพื่อหาเลี้ยงดูเขาเราไม่ใช่คนรวย เป็นคนหาเช้ากินค่ำ

อยากบอกนายเพิกให้กลับตัวเป็นคนดีของสังคม แต่ว่าสิ่งแวดล้อมมันนำพาไปกระทำผิด และติดยาบ้า หากไม่ได้เสพเขาก็มีอาการหงุดหงิด ต่อไปตนจะพยายามดูแลหลานชายให้ดีที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน