ผู้ต้องหาตื่นมาถึงกับช็อก อดีตตำรวจ ถูกไล่ออกจากราชการ คดีติดตัวเพียบ ก่อเหตุสลดคาห้องขัง พบเสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง เผยประวัติเมื่อปี 59

เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 25 ม.ค.2567 พ.ต.อ.โสภณ มงคลโสภณรัตน์ ผกก.สภ.บางเสาธง พร้อมด้วย ร.ต.อ.วิฑูลย์ เพ็งบุผา รองสารวัตร(สอบสวน) แพทย์เวร โรงพยาบาลบางเสาธง อัยการจังหวัดสมุทรปราการ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู

ร่วมกันตรวจสอบและชันสูตรพลิกศพ นายสมศักด์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี ที่พบว่าก่อเหตุผูกคอเสียชีวิตภายในห้องขัง สภ.บางเสาธง จากการตรวจสอบสภาพศพ พบว่า เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง และไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยการถูกทำร้ายร่างกายแต่อย่างใด

เจ้าหน้าที่จึงทำการบันทึกภาพและลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นมอบร่างผู้เสียชีวิตส่งไปชันสูตรอย่างละเอียดที่นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์สมุทรปราการ

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นอดีตตำรวจ ยศ ส.ต.ท. ที่ถูกไล่ออกจากราชการ หลังไปก่อเหตุฉ้อโกง เมื่อปี 2559 ในพื้นที่ จ.นครราชสีมา ก่อนจะถูกจับกุมตัวและถูกให้ออกจากราชการ

กระทั่งพ้นโทษออกมายังคงก่อเหตุอีกหลายครั้ง ทั้งชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน กรรโชกทรัพย์ ปลอมแปลงเอกสาร รวมแล้ว 7 คดี ล่าสุดก่อนมาก่อเหตุสลดหนีความผิด นายสมศักดิ์ ไปก่อเหตุจับตัวเด็กเรียกค่าไถ่ ในพื้นที่ สน.ลาดกระบัง ซึ่งพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขอหมายจับ

โดยฝ่ายสืบสวนของ สน.ลาดกระบัง ได้สืบทราบว่า นายสมศักดิ์ ได้ขับรถนั่งส่วนบุคคลสีขาวคันหนึ่ง ทะเบียน จ.พิษณุโลก หลบหนีใช้ทางหลวงมอเตอร์เวย์ ทำให้ตำรวจทางหลวงมอเตอร์เวย์ หรือตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้สกัดจับ

จนไปพบรถต้องสงสัยตามที่ฝ่ายสืบสวนแจ้งมา กำลังผ่านด่านจ่ายเงินลาดกระบัง จึงเรียกให้หยุดตรวจสอบ จากการตรวจค้นพบว่า นายสมศักดิ์ใช้ป้ายทะเบียนปลอมมาสวมใส่และยังพบป้ายทะเบียนปลอม รวมถึงใบภาษีปลอมภายในรถของนายสมศักดิ์อีกด้วย








Advertisement

ตำรวจทางหลวงจึงบันทึกจับกุม นายสมศักดิ์ ในข้อหาปลอมแปลงเอกสาร และนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.บางเสาธง ก่อนจะคุมตัวเข้าห้องขังเพื่อรอดำเนินคดี กระทั่งมาก่อเหตุดังกล่าว

จากการสอบถามสิบเวรเบื้องต้น ระบุว่า หลังจากที่รับตัวผู้ต้องหารายนี้เข้ามาในห้องขัง ก็ทำการตรวจค้นในร่างกายอย่างละเอียดแล้ว ซึ่งขณะนั้นเจ้าตัวก็ยังพูดบอกอีกว่าติดคุกครั้งนี้คงถูกดำเนินคดีตามอีกหลายกระทง หลังจากที่สิบเวรพิมพ์ลายนิ้วมือและนำตัวนายสมศักดิ์เข้าห้องขัง ห้องรวมกับผู้ต้องหาชายคนอื่น

กระทั่ง เที่ยงคืน นายสมศักดิ์ ได้แจ้งกับสิบเวรว่า ตนเองเป็นโรคหืดหอบและไม่สามารถขังรวมกับคนอื่นได้ สิบเวรจึงจับขังแยกไว้อีกห้อง กระทั่งเวลา 01.00 น. มีผู้ต้องหาลุกมาเข้าห้องน้ำแล้วพบว่านายสมศักดิ์นั่งห้อยตัวก้นลอยพื้นที่ประตูห้องพัก จึงรีบเข้าไปตรวจสอบพบว่าเสียชีวิตแล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน