มหามงคลชีวิต ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ 2567 ปี ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเชิญร่วมกราบสักการะธรรมราชา พระบรมสารีริกธาตุ พร้อมอรหันตธาตุพระอัครสาวก จอมทัพธรรม พระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานะ ในโครงงานธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุ มหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง (Ganga-Mekong Holy Buddha Relics Dhammayatra)

สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ร่วมจัดพิธีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ จากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ณ กรุงนิวเดลลี และพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จากสถูปสาญจี สาธารณรัฐอินเดีย เพื่อให้พุทธบริษัทกราบสักการะ

เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 ร่วมกับรัฐบาลไทย โดย กระทรวงวัฒนธรรม กรมการศาสนา รัฐบาลสาธารณรัฐอินเดีย โดย สถานเอกอัครราชทูตอินเดียประจำประเทศไทย พร้อมทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน จัดพิธีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จากสาธารณรัฐอินเดีย มาประดิษฐานชั่วคราวที่ประเทศไทย ระหว่างวันที่ 22 กุมภาพันธ์ – วันที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2567 ภายใต้โครงงานธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุ มหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง

สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 มีพันธกิจหลักในการดำเนินงานกิจกรรมโครงการต่าง ๆ เพื่อการขับเคลื่อนการ เผยแผ่พระพุทธศาสนาทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ เพื่อสร้างความร่วมมือและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้าง ความเข้าใจที่ดีในการอยู่ร่วมกันอย่างเป็นปึกแผ่นด้วยสันติสุขในกลุ่มประเทศชาวพุทธแถบทวีปเอเชียโดยอาศัยหลักพระพุทธศาสนาเป็นแกนกลางในการพัฒนาให้เกิดความเจริญอย่างยั่งยืนและมั่นคงบนเส้นทางอริยมรรค

สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 เป็นองค์กรอิสระไม่หวังผลกำไร ก่อกำเนิดจากการรวมตัวของพุทธบริษัท ร่วมกันทำงานสร้างความมั่นคงด้านพระพุทธศาสนา ด้วยการปลูกฝังศรัทธาในพระพุทธศาสนาผ่านกิจกรรมโครงการต่างๆ โดยอาศัยความร่วมมือภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ทั้งภาครัฐบาล องค์กรเอกชน คณะบุคคล และบุคคล เพื่อให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และด้วยตระหนักถึงวิกฤตปัญหาที่มวลมนุษยชาติต้องเผชิญอันสามารถแก้ไขเบ็ดเสร็จได้ด้วยพุทธธรรม

สถาบันโพธิคยาฯ ดำเนินงานตามพันธกิจดังกล่าวต่อเนื่องมาแล้วเป็นเวลา 17 ปี และมีผลงานโดดเด่นเป็นที่รู้จัก คือ งานธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง (ไทย-เมียนมา-เวียดนาม-สปป.ลาว-กัมพูชา) ซึ่งจัดผ่านไปแล้ว 2 ครั้ง คือ ครั้งที่ 1 ธรรมยาตรา 5 แผ่นดิน ตามรอยพระอริยสงฆ์ลุ่มน้ำโขง จัดขึ้นในปีพ.ศ. 2560 ครั้งที่ 2 ธรรมยาตรา 5 แผ่นดินลุ่มน้ำโขง พุทธศาสตร์การทูตสู่สันติภาพโลก จัดขึ้นในปีพ.ศ. 2562 โครงการธรรมยาตราฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเดินตามรอยบาทองค์พระศาสดา เพื่อรวมพลังสายธารศรัทธาของพุทธบริษัทลุ่มแม่น้ำโขงให้มีความสมัครสมานสามัคคีเป็นหนึ่งเดียว ในฐานะที่มีสมเด็จพ่อองค์เดียวกัน คือ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพระพุทธเจ้า มีแม่น้ำโขง. เป็นดุจแม่ ที่คอยหล่อเลี้ยงคนในภูมิภาคนี้ ให้ดำรงวิถีชีวิตอยู่ได้อย่างมั่นคง และเพื่อประกาศพระพุทธศาสนา สืบสานพุทธปณิธานของพระพุทธองค์ให้ดำรงคงอยู่ตลอดไป

อนึ่ง ความสำเร็จของโครงการธรรมยาตรา 5 แผ่นดินทั้ง 2 ครั้ง สามารถสร้างพลังศรัทธา และความสามัคคีของประชาชนทั้ง 5 ประเทศ ให้เกิดขึ้นได้อย่างกว้างขวาง จนนำมาสู่โครงการธรรมยาตรา ครั้งที่ 3 ในชื่อ ธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุ มหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง ซึ่งเป็นโครงการที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เป็นธรรมยาตราเชื่อมดินแดนของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จากมหาธรรมนทีคงคา สู่แผ่นดินแห่งพุทธธรรมลุ่มน้ำโขง นำเสด็จฯ โดยพระบรมสารีริกธาตุขององค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า พระผู้เป็นธรรมราชา ตามเสด็จฯ โดยพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร พระมหาโมคคลานะ พระอัครสาวกซ้ายขวาจอมทัพธรรม

สำหรับกำหนดการพิธีอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุ และพระอรหันตธาตุพระสารีบุตร และพระมหาโมคคัลลานะ จะจัดขึ้นในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม พ.ศ. 2567 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง จากนั้นธรรมยาตรา ไปภาคเหนือ ที่ หอคำหลวง อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จังหวัดเชียงใหม่ ในวันที่ 5-8 มีนาคม พ.ศ.2567 ต่อไปยัง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ วัดมหาวนาราม (วัดป่าใหญ่) จังหวัดอุบลราชธานี ในวันที่ 10-13 มีนาคม พ.ศ.2567 สิ้นสุดภาคใต้ที่วัดมหาธาตุวชิรมงคล (วัดบางโทง) จังหวัดกระบี่ ในวันที่ 15-18 มีนาคม พ.ศ.2567 และส่งเสด็จกลับไปยังสาธารณรัฐอินเดีย

ดร.สุภชัย วีระภุชงค์ เลขาธิการ สถาบันโพธิคยาวิชชาลัย 980 กล่าวว่า “งานมหามงคลนี้เกิดขึ้นจากสามัคคีธรรมของทุกฝ่าย ในการเชื่อมต่อพลังศรัทธาในพุทธธรรมของประชาชน 2 ภูมิภาคจากลุ่มแม่น้ำคงคา คือ สาธารณรัฐอินเดีย ถิ่นกำเนิดพระพุทธศาสนา สู่ลุ่มแม่น้ำโขง ดินแดนพระพุทธศาสนาประดิษฐานมั่นคง ในประเทศไทย กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม โดยสถาบันโพธิคยาฯ ดำริโครงการธรรมยาตราพระบรมสารีริกธาตุ มหานทีคงคาลุ่มน้ำโขง ขึ้น มีรัฐบาลไทยโดยกระทรวงวัฒนธรรม กรมศาสนา เป็นผู้อาราธนาพระบรมสารีริกธาตุ พร้อมพระอรหันตธาตุพระอัครสาวก พระสารีบุตร พระมหาโมคคัลลานะ มีผู้แทนระดับสูงจากรัฐบาลอินเดียเป็นผู้อัญเชิญมา ด้วยการประสานงานจากสถานทูตอินเดียประจำประเทศไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้พุทธบริษัท ทั้งชาวไทยและประเทศเพื่อนบ้านกราบสักการะ

นับเป็นโอกาสสำคัญครั้งประวัติศาสตร์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ในการธรรมยาตราของ พระบรมสารีริกธาตุ เสด็จพร้อมพระอรหันตธาตุพระอัครสาวกทั้งซ้ายขวา จากนำอัญเชิญประสานงานโดยสถานทูตอินเดียประจำประเทศไทย นอกจากนั้น ด้วยพระบรมสารีริกธาตุ คือส่วนที่เหลืออยู่ของพระสรีระขององค์พระศาสดาและหลังจากการถวายพระเพลิง การเสด็จของพระบรมสารีริกธาตุจึงเปรียบประดุจดัง องค์พระศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จฯ โดยพระองค์เอง และเมื่อพระพุทธองค์เสด็จไปไหน ย่อมประทานพรโปรดพุทธศาสนิกชน โปรดเวไนยสัตว์ ผู้อยู่ในข่ายแนะนำสั่งสอนได้ สามารถบรรลุธรรมได้

“เราจึงควรถือโอกาสนี้ สร้างศาสนาธรรมให้ปักหลักมั่นคง ด้วยการนำคำสอนขององค์พระศาสดาซึ่งคือปริยัติธรรม นำมาปฏิบัติ เพื่อให้เกิดปฏิเวธธรรม มีความเข้าใจและเข้าถึงธรรมะได้จนสามารถยกระดับจิตใจให้ทุกคนในแผ่นดินลุ่มน้ำโขงได้มีความสุขกับการใช้ชีวิตต่อไปโดยไม่เบียดเบียนกัน รู้จักคำว่าอภัยและรับรู้ลมหายใจให้มากที่สุด เพื่อสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงธรรมะให้เกิดขึ้นเพื่อสืบทอดความรัก ความสามัคคี และสร้างสันติสุขโดยธรรมให้เกิดขึ้น
“ผมเชื่อมั่นว่า ปัญหาวิกฤตสังคมที่รุมเร้าโลก ชนะเบ็ดเสร็จได้โดยธรรม หรือธรรมวิชัยของพระพุทธเจ้าเท่านั้น ที่แก้ปัญหาได้ทุกระดับ สถาบันโพธิคยาฯ จึงขอรณรงค์ให้ผู้นำทุกภาคส่วนหันมาใช้ “ธรรม” เป็น “อำนาจ” ไม่ใช้ “อำนาจ” เป็น “ธรรม”

“งานนี้ผมจึงมุ่งหวังว่าจะเป็นจุดเริ่มของการสร้างศตวรรษแห่งธรรมะ (Dhamma Century) อันเป็นการเสริมสร้างสันติธรรมในหมู่ชาวพุทธ ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ โดยมีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความร่วมมือ สามารถพัฒนาไปสู่การเป็นศตวรรษแห่งธรรมะ ด้วยการนำหลักธรรมคำสอนของศาสนา เป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงความร่วมมือด้านศาสนาและส่งเสริมคุณธรรมของประชาคมโลก เพื่อสร้างความสงบสุข แก่มวลมนุษยชาติสืบไป”
รายละเอียดเพิ่มเติม : https://bodhigaya980.com/dhamayartra/dhammayatra-3/

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน