เจ้าทุกข์หัวร้อน สาวหนีหมายจับ โพสต์กินหรูอยู่สบาย เช็กอินลงโซเชียล อัพสตอรี่รัว ๆ หาหลักฐานเองทุกอย่าง ตร.ยังจับไม่ได้ แถมบอกให้ไปหาเอง ขึ้นโรงพักจนละอายใจ

วันที่ 13 มี.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการขอความช่วยเหลือจาก น.ส.อรทัย (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี ชาว ต.ควนปริง อ.เมือง จ.ตรัง ว่า เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2565 ที่ตนได้ไปยืมเงินกับ น.ส.ยุพิน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี ซึ่งเป็นคนรู้จัก จำนวน 9,000 บาท โดยใช้รถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ มูลค่า 4 แสนกว่าบาท ค้ำประกัน

น.ส.อรทัย กล่าวต่อว่า โดยนัดคืนเงินคืนรถกันหลังจากยืมประมาณ 1 สัปดาห์ เมื่อครบกำหนดตนจะคืนเงิน และไถ่ถอนรถคืน แต่น.ส.ยุพินกลับบ่ายเบี่ยง ไม่นำรถยนต์กระบะคันดังกล่าวมาคืน ตนจึงเข้าไปแจ้งความให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับน.ส.ยุพิน โดยมี ร.ต.อ.(หญิง) นายหนึ่ง ซึ่งเป็นรองสารวัตร(สอบสวน) สภ.เมืองตรัง เป็นพนักงานสอบสวนเจ้าของคดีและรับเรื่อง เมื่อวันที่ 16 ธ.ค.65

เจ้าทุกข์หัวร้อน สาวหนีหมายจับ ยักยอกทรัพย์ โพสต์กินหรูอยู่สบาย เช็กอินลงโซเชียลนาน 1 ปี หาหลักฐานเองทุกอย่าง

เจ้าทุกข์หัวร้อน สาวหนีหมายจับ ยักยอกทรัพย์ โพสต์กินหรูอยู่สบาย เช็กอินลงโซเชียลนาน 1 ปี หาหลักฐานเองทุกอย่าง

น.ส.อรทัย กล่าวอีกว่า ต่อมาตนได้พยายามติดต่อ และตามหานางยุพิน แต่ปรากฏว่าได้หนีหาย ส่วนทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกถึง 2 ครั้งแต่กลับไม่มาพบ ช่วงเดือน เม.ย.2566 เจ้าหน้าที่จึงได้มีการออกหมายจับในข้อหายักยอกทรัพย์ จนถึงขณะนี้ผ่านมาแล้วกว่า 1 ปี 3 เดือน ยังไม่สามารถจับกุมน.ส.ยุพิน ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรังได้

น.ส.อรทัย กล่าวด้วยว่า ทำให้ตนซึ่งเป็นเสาหลักของครอบครัวเดือดร้อนเป็นอย่างมาก เพราะต้องแบกรับภาระในการดูแลลูกเล็กถึง 2 คน โดยการประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป มีรายได้เข้ามาวันละหลักร้อยบาท ทั้งที่รถยนต์ที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวันและใช้ทำงานก็ไม่มี และยังต้องผ่อนเงินกู้ที่ใช้ซื้อรถในทุก ๆ เดือน

น.ส.อรทัย กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 1 ปี หลังจากมีการออกหมายจับน.ส.ยุพินแล้ว ตนก็ได้เดินขึ้นโรงพักเมืองตรังอยู่อย่างต่อเนื่อง เพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับคดี และการติดตามตัวผู้ต้องหาตามหมายจับ ส่วนพนักงานสอบสวนได้แจ้งว่า ส่งเรื่องไปให้กับฝ่ายสืบสวนแล้ว ซึ่งฝ่ายสืบสวนบอกกลับมาว่าอยู่ระหว่างติดตามตัว

น.ส.อรทัย กล่าวต่อว่า ต่อมาตนจึงพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะติดตามหาเบาะแสที่อยู่ของน.ส.ยุพิน จนสืบทราบว่าน.ส.ยุพินน่าจะอยู่ในจังหวัดหนึ่งของภาคใต้ โดยในเฟซบุ๊ก และ ติ๊กต็อก ของน.ส.ยุพิน ได้มีการโพสต์ภาพ และอัดคลิปวิดีโอ ทำงาน และท่องเที่ยวใช้ชีวิตกินหรูอยู่สบายในทุก ๆ วัน พร้อมกับอัพสตอรี่ชีวิตประจำวันเกือบจะทุก ๆ 3 ชั่วโมงต่อวัน

น.ส.อรทัย กล่าวอีกว่า ตนจึงได้เก็บรวบรวมพยานหลักฐานดังกล่าวมาให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่ต่อมาเมื่อตนมาติดตามความคืบหน้า ทางตำรวจบอกว่า ลงพื้นที่แล้วแต่หาตัวไม่เจอ และบอกให้ตนใจเย็น ๆ เพราะอายุความของคดียาวถึง 10 ปี

น.ส.อรทัย กล่าวด้วยว่า และชี้แนะให้ตนไปติดตามหาด้วยตนเอง หากพบตัวแล้วให้แจ้งมาที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ตนเดือดเนื้อร้อนใจมาก และทนไม่ได้กับพฤติกรรมของน.ส.ยุพินที่ใช้ชีวิตราวกับไม่ใช้ผู้ต้องหาหนีหมายจับ

ผู้เสียหาย กล่าวว่า น.ส.ยุพินบ่ายเบี่ยงมาตลอดว่าทำธุระอยู่ต่างจังหวัด และต่างประเทศ จนไม่สามารถติดต่อได้ แม้จะถูกออกหมายจับแล้ว แต่โพสต์สื่อต่าง ๆ ลงโซเซียลมีเดียตลอดทุกวัน แต่ก็ยังจับกุมตัวไม่ได้ ทำเหมือนว่าตำรวจจะจับเขาไม่ได้ ตนก็หาพยานหลักฐานในการเช็กอินของผู้ต้องหาให้ตำรวจตลอด

น.ส.อรทัย กล่าวอีกว่า หากผู้ต้องหาทราบข่าวก็ให้เข้ามามอบตัว และพูดคุยไกล่เกลี่ยได้ และให้เจ้าหน้าที่เร่งรัดการติดตามจับกุมให้ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่ารถตนไปอยู่ไหน อยากได้รับความเป็นธรรมเพราะผ่านมา 1 ปีกว่า ๆ แล้ว ติดตามคดีจนตำรวจบนโรงพักจำชื่อตนได้แล้ว และไปติดตามจนตัวเราเองละอายแก่ใจเองแล้ว คำตอบที่ได้จากตำรวจบ่อยมากคือ ตามแล้วแต่ไม่เจอ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน