รมช.มท. เกรียง ประชุมติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และตรวจความพร้อมของเครื่องจักรกลสาธารณภัย เพื่อหาแนวทางการบริหารจัดการน้ำ การแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควันในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี

วันที่ 20 มี.ค.67 นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย พร้อมด้วยนายชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงมหาดไทย นายสมชัย อัศวชัยโสภณ ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายศุภชัย นพขำ ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายณรงค์ จีนอ่ำ ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย นายสหรัฐ วงศ์สกุลวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นางสางณฐธนา คงรัตนชาติ ผู้ตรวจราชการกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และคณะฯ ลงพื้นที่จังหวัดอุดรธานี

เพื่อติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาล และวางแนวทางป้องกันบรรเทาสาธารณภัยในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายณฐพล วิถี รองผู้ว่าราชการจังหวัด อุดรธานี นายกฤต อรรคศรีวร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุดรธานี ร.ต.อ.ตนุพล พันธ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 14 อุดรธานี นายธนทร ศรีนาค หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุดรธานี นายพรเทพ ศรีวรานันท์ โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดอุดรธานี และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม ณ ห้องประชุมกรมหลวงประจักษ์ศิลปาคม ศาลากลางจังหวัดอุดรธานี และลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมศูนย์ป้องกันบรรเทาและสาธารณภัย เขต 14 อุดรธานี

นายเกรียง กัลป์ตินันท์ กล่าวว่า จังหวัดอุดรธานีเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพ สามารถวางแผนแนวทางการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ปัญหาไฟป่า หมอกควัน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยให้จังหวัดบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ เก็บรวบรวมข้อมูลที่สำคัญในการบริหารจัดการน้ำ โดยเฉพาะองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งมีข้อมูลเชิงลึก แล้วส่งให้กรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย เพื่อดำเนินการการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ และหากอยู่นอกเหนือขอบเขตอำนาจของกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ควรส่งต่อข้อมูลที่จำเป็นต่อการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนให้กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อร่วมบูรณาการแก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด

ในการนี้ “จังหวัดอุดรธานีและกรมป้องกันบรรเทาสาธารณภัย ควรจัดกำลังเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย ให้พร้อมเผชิญเหตุตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับภัยช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยเน้นการเตรียมการป้องกันภัย มากกว่าการบรรเทาภัย” และการให้ความสำคัญกับจุดที่จะตั้งด่านตรวจในช่วงเทศกาลสงกรานต์ให้มีความเหมาะสมกับพื้นที่ ซึ่งจะต้องร่วมกันวางแผนกับทุกภาคส่วนเพื่อให้เกิดความรอบคอบ รัดกุม โดยแต่ละด่านตรวจควรอยู่ห่างกันในระยะที่เหมาะสม เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางของพี่น้องประชาชน และตนหวังให้ผู้ที่เดินทางในช่วงหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์ปลอดภัยทุกท่าน นายเกรียงฯ กล่าวในช่วงท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน