เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 12 มี.ค. ที่ห้องประชุมราชวัลลภ ชั้น 2 อาคารราชวัลลภ กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ รมว.ศธ. เปิดเผยผลการประชุมความก้าวหน้าการปรับปรุงสัญญาณอินเตอร์เน็ตในสถานศึกษา และการดำเนินงานเกี่ยวกับระบบ Moe Net ของ ศธ. ว่า นโยบายปฏิรูปอินเตอร์เน็ตของ ศธ.ให้เป็นระบบไฮสปีดอินเตอร์เน็ต โดยยกเลิกระบบ Moe Net เปลี่ยนมาใช้ระบบ UniNet ของสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) ถือว่ามีความสำเร็จ เนื่องจากขณะนี้มีโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) 30,000 กว่าโรง ยังเข้าไม่ถึงระบบไฮสปีดอินเตอร์เน็ตไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ หรือประมาณ 300 โรงเท่านั้น อีกทั้งกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ยังเข้ามาช่วยวางสายไฟเบอร์ออฟติก (ใยแก้ว) จากหมู่บ้านมาถึงหน้โรงเรียนฟรีด้วย

รมว.ศธ.กล่าวต่อว่า ก่อนจะปฏิรูประบบการใช้อินเตอร์เน็ตทั้งหมดของ ศธ.นั้น เราพบว่ามีการใช้งบประมาณต่อปีที่สูงมาก แต่กลับใช้งานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพมาเป็นสิบๆ ปี นอกจากนี้ยังพบว่าไม่มีการทำสัญญาการจัดซื้อจ้าง ซึ่งขณะนี้มีประเด็นว่ามีการเรียกเก็บเงินค่าบริการรายเดือนระยะเวลา 3 เดือน 60 ล้านบาท จากบริษัทที่ให้บริการ แต่นายการุณ สกุลประดิษฐ์ ปลัด ศธ.ยืนยันว่าไม่สามารถชำระเงินให้ได้เพราะจะถือเป็นความผิด เนื่องจากไม่มีสัญญาการให้บริการเครือข่าย ซึ่งเรื่องนี้ ปลัด ศธ.ไม่รู้สึกกังวลและพร้อมสู้เต็มที่หากถูกฟ้องร้อง

“ผมตั้งข้อสังเกตว่าการชำระเงินค่าบริการในช่วงที่ผ่านๆ มานั้นถูกต้องหรือไม่ มีที่มาที่ไปอย่างไร จึงตั้งคณะกรรมการสืบข้อเท็จจริง มีนายสมศักดิ์ มิตะถา ผอ.สำนักงานบริหารเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อพัฒนาการศึกษา ของ สกอ.ในฐานะอาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) เป็นประธาน มีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคไอทีร่วมเป็นกรรมการ อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าปฏิรูปอินเตอร์เน็ตครั้งนี้ประสบความสำเร็จ เพราะนอกจากจะตอบโจทย์ให้กับสถานศึกษาในการเลือกระบบอินเตอร์เน็ตที่เหมาะสมได้ตามความต้องการแล้ว ศธ.ยังสามารถประหยัดงบประมาณได้ถึง 3,000 ล้านบาทเลยทีเดียว” นพ.ธีระเกียรติ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน