วันที่ 17 มี.ค. สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีควายตายคาดว่าน่าจะป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า เนื่องจากมีอาการเห่าหอนคล้ายกับสุนัขก่อนจะตาย เมื่อเข้าไปตรวจสอบ ที่บ้านเลขที่ 114 ม.7 บ้านดอนหวาย ต.สะเดา อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พบนางอุทิศ จอยเอ้กา เจ้าของบ้าน พาไปดูควายเพศเมียอายุ 10 ปี โดยนางอุทิศเล่าว่าว่าควายตัวนี้มีลูกมาแล้ว 4ครอก คอกที่ 4อายุ 2 เดือน เมื่อที่แล้ว เดือนก.พ. ที่ผ่านมาได้มีสุนัข มาไล่กัดเป็ด ไก่ ตาย แล้วมากัดขาควายของตนเอง แต่ไม่ได้สนใจต่อมาได้ข่าวว่ามีชาวบ้านฆ่าสุนัขตายแล้ว เพราะป่วยเป็นโรคพิษสุนัขบ้า
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาตนสังเกตว่าควายมีอาการผิดปกติ ส่งเสียงร้องทั้งคืน หญ้าไม่กิน ยืนคุ้ยเขี่ยดิน เข้าใกล้ไม่ได้จะไล่ชน ไม่ว่าคนหรือสัตว์ ดุร้าย หงุดหงิด จึงแจ้งให้ปศุสัตว์ได้เข้ามาโดยปศุสัตว์ได้ให้เฝ้าระวังทำการผูกล่ามไว้ ตามคำแนะนำ ต่อมา 3 วันก่อน ควายได้เริ่มส่งเสียงเห่าหอนเหมือนสุนัข และดุร้าย กลางคืนตนยังไม่กล้าส่องไฟดู เพราะกลัวไปส่องเข้าดวงตาควายแล้วจะยิ่งโมโห
จนกระทั่งเมื่อบ่ายวันที่ 16 มี.ค. ควายมีอาการคลุ้มคลั่งเหมือนหมา และค่อยๆหมดแรงตายไป จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ โดยปุศัตว์แนะนำให้ฝังกลบ โรยปูนขาวฆ่าเชื้อ แต่ไม่ควรให้ใครสัมผัสตัวควายเพราะอาจมีน้ำลายติดตามตัวควาย จะทำให้ได้รับเชื้อ ตนจึงต้องจ้างรถแมคโคร ฝังกลบในที่ดินหลังบ้าน ค่าจ้างแมคโครราคา 4,500 บาท
ด้านอัมพล พัวพัฒนกูล ปศุสัตว์ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ระบุว่าหลังได้รับแจ้งว่าควายตัวนี้ป่วยได้ตรวจและเฝ้าควบคุม อาการที่แสดงออกคล้ายหลายโรค คือ โรคพิษสุนัขบ้า โรคเฮโมรายิก(คอบวม) โรคไข้หลังแข็ง
และสันนิษฐานว่า สัตว์อาจจะได้รับยา และแพ้ยา ร่างกายอ่อนแอ เป็นเวลากว่าสัปดาห์ ด้วยก็ได้ อย่างไรก็ตามเมื่อควายตาย เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้ควบคุมดูแลฝังควายพร้อมโรยปูนขาวและยาฆ่าเชื้อเพื่อป้องกันควบคุมโรค พร้อมกับเฝ้าระวังสัตว์เลี้ยงในรัศมี 1 กม.