กรณีวัดศรีชุม ต.เมืองเก่า อ.เมือง จ.สุโขทัย เป็นโจทก์ยื่นฟ้องเรียกเงิน 50 ล้านบาท พร้อมทวงคืนที่ดินบริเวณที่ตั้งมณฑป “พระอจนะ” ตำนานพระพุทธรูปพูดได้ ซึ่งเป็นมรดกโลก จากอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย (จำเลยที่ 1) , สำนักศิลปากรที่ 6 สุโขทัย (จำเลยที่ 2) และกรมศิลปากร (จำเลยที่ 3) จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

อ่านประกอบ กรมศิลป์ไม่หนักใจ วัดศรีชุมใหม่ฟ้องเรียก 50 ล้าน ปมพื้นที่พิพาทอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย

ขณะที่ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า รู้สึกตกใจที่ทางวัดศรีชุมมาฟ้องเรียกเงินจากกรมศิลป์ถึง 50 ล้านบาท และระบุว่าวัดศรีชุมไม่ใช่วัดเก่า ที่สร้างพร้อมกับโบราณสถานวัดศรีชุม แต่เป็นวัดใหม่ ดังนั้นกรมศิลป์จะดำเนินการตรวจสอบว่าการก่อสร้างวัดศรีชุม ได้มีการขออนุญาตจากกรมศิลปากรหรือไม่ ไปแล้วก่อนหน้านี้

ความคืบหน้าวันที่ 22 มี.ค. นายดนุสรณ์ สุทธิผล ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากเจ้าอาวาสวัดศรีชุม เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังทางวัดกับกรมศิลป์กลายเป็นข่าวดัง ปรากฏว่ามีการเปลี่ยนแม่กุญแจล็อคประตูเหล็กตรงสะพาน ทำให้พระสงฆ์และชาวบ้านไม่สามารถเดินข้ามเข้าไปประกอบพิธีทางศาสนา ที่บริเวณมณฑปพระอจนะได้ พร้อมกับมีหนังสือจากอธิบดีกรมศิลปากรมาถึงเจ้าอาวาสวัดศรีชุม เมื่อช่วงเย็นวันที่ 20 มี.ค. 61 แจ้งขอให้รื้อถอนอาคารที่ปลูกสร้างโดยไม่ได้รับอนุญาต ออกจากเขตโบราณสถานภายใน 60 วัน ได้แก่ วิหารหลวงพ่อเพชร กุฏิเจ้าอาวาส ห้องน้ำ เมรุเผาศพ ศาลาพักสงฆ์ ศาลาการเปรียญ ศาลาปู่ฤาษี และอื่นๆรวม 16 รายการ ซึ่งทางวัดก็คงต้องดำเนินการโต้แย้งคำสั่งนี้ และใช้สิทธิ์ยื่นร้องขอเพิกถอนคำสั่งต่อศาลปกครองต่อไป นอกจากนี้ก็จะแจ้งความดำเนินคดีกับกรมศิลป์ในข้อหาบุกรุก และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบอีกด้วย

ด้านคณะกรรมการวัดศรีชุม กล่าวว่า ได้เห็นหนังสือคำสั่งให้รื้อถอนอาคารเสนาสนะภายในวัดแล้ว รู้สึกไม่สบายใจ เพราะทั้งหมดสร้างจากเงินบริจาคของผู้มีจิตศรัทธาเมื่อหลายสิบปีมาแล้ว อยากให้กรมศิลป์หรือรัฐบาลหันมาแก้ปัญหาครั้งนี้ เพื่อให้ทุกฝ่ายสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข มีความเป็นเอกภาพ และรักใคร่ ปรองดองกัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน