เมื่อวันที่ 23 มี.ค. ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป. ออกหมายเรียก นายนพดล พฤกษะวัน อดีตข้าราชการ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เข้าให้ปากคำในฐานะพยาน หลังจากนายเปรมชัย กรรณสูต อ้างว่า นายนพดลเป็นคนประสานงานให้เข้าพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวน ฝั่งตะวันตก ไปจนถึงเมื่อนายเปรมชัย ถูกจับกุม นายนพดลมีส่วนเกี่ยวข้องในการพยายามติดสินบนเจ้าหน้าที่

พล.ต.ต.กมล กล่าวว่า เหตุที่เรียกนายนพดลมาในวันนี้ เพราะเป็นความเห็นของพนักงานสอบสวน ว่าควรเรียกนายนพดลมาให้การ เพื่อทราบรายละเอียดเกี่ยวกับรูปคดี จึงจำเป็นต้องสอบสวนตั้งแต่ นายนพดลเป็นคนประสานงานให้กลุ่มของนายเปรมชัยเข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวน ฝั่งตะวันตก จนไปถึงการจับกุมนายเปรมชัยที่มีการอ้างว่านายนพดลเป็นคนร่วม หลังจากสอบสวนนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก คำให้การเปิดเผยว่า นายเปรมชัยเป็นคนอ้างถึงนายนพดล จะให้นายนพดลมาประสานกับเจ้าหน้าที่เพื่อจะให้ปล่อยตัวนายเปรมชัยและพวก

โดยหลังจากนี้จะต้องพิจารณาอีกครั้งว่าหลังจากสอบปากคำนายนพดล คำให้การเป็นรายละเอียดที่สมบูรณ์หรือไม่ หรือหากคำให้การของนายนพดล มีพยานบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องอีก เพราะเนื่องจากหาก นายนพดลเป็นคนประสานงานเพื่อให้เข้าไปภายในพื้นที่ก็จะต้องประสานงานกับเจ้าหน้าที่หลายคน หากกล่าวพาดพิงถึงใคร ก็อาจจะต้องเชิญมาให้ปากคำเพิ่มเติม แต่ในขณะนี้นายนพดลยังไม่มีความผิดในข้อหาใด โดยในการสอบสวนครั้งนี้ ตนจะเป็นคนสอบด้วยตนเอง

ด้าน นายนพดล กล่าวเพียงสั้นๆ ด้วยหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส ว่า วันนี้ตนไม่รู้ว่าพนักงานสอบสวนเรียกมาทำอะไร แต่ตนยืนยันว่าตนไม่ได้ทำความผิดอะไร

ต่อมาภายหลังการสอบปากคำกว่า 2 ชั่วโมง พล.ต.ต.กมล กล่าวว่า จากการสอบสวนนายนพดลยอมรับว่าเป็นคนติดต่อไปยังดร.กาญจนา นิตยะ ผู้อำนวยการสำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า เพื่อประสานงานให้นายเปรมชัย พร้อมพวกเข้าไปในพื้นที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก และติดต่อไปยังนายวิเชียร ชิณวงษ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก เพื่อขออนุญาตเข้าไปในพื้นที่ แต่นายนพดล ไม่ทราบว่านายเปรมชัยจากเข้าไปในพื้นที่เพื่อล่าสัตว์

“ในส่วนของภายหลังจากนายเปรมชัย พร้อมพวกถูกคุมตัว นายเปรมชัยอ้างว่าจะให้นายนพดลเป็นคนประสานงานกับทางเจ้าหน้าที่ เพื่อให้ปล่อยตัวนายเปรมชัยและพวกนั้น นายนพดลยืนยันว่าตนไม่รู้เรื่องและนายเปรมชัยไม่ได้ติดต่อมาแต่อย่างใด จึงมีการสอบในเรื่องของนายนพดล มีศักยภาพที่จะสามารถประสานงานกับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ปล่อยตัวนายเปรมชัยและพวกได้หรือไม่ เคยรับราชการอะไร และเคยอยู่ในตำแหน่งไหนบ้าง และรู้จักกับบุคลลที่มีอำนาจอยู่ในพื้นที่หรือไม่” พล.ต.ต.กมล กล่าว

พล.ต.ต.กมล กล่าวต่อว่า หลังจากการสอบสวนนายนพดล ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้สินบนกับเจ้าหน้าที่ เนื่องจากนายนพดล ไม่ได้อยู่ในขณะถูกจับกุม เป็นเพียงบุคคลที่นายเปรมชัยกล่าวอ้างเท่านั้น ส่วนของกรณีที่นายนพดลนำไฟฉายไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ก่อนที่จะเข้าไปในพื้นที่นั้น นายนพดลซื้อไฟฉายจำนวน 6 กระบอกๆละ 150 บาท รวมแล้วราคาก็ประมาณ 900 บาท มาจากคลองถม ซึ่งมันไม่ใช่สินบนกับเจ้าหน้าที่ เป็นการนำมาฝากเพื่อให้เจ้าหน้าที่ใช้สำหรับปฏิบัติงานเท่านั้นและยังฝากไปยังพื้นที่อื่นด้วย

“สำหรับการสอบปากคำนายนพดลในวันนี้เบื้องต้นยังไม่มีการเรียกบุคคลอื่นมาสอบปากคำเพิ่ม เพราะสำนวนครบถ้วนแล้ว แต่จะต้องมีการพิจารณากับพนักงานสอบสวนอีกครั้ง” ผบก.ปปป. กล่าว

ด้านนายนพดล กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ว่าไม่มีอะไรมาก เพราะตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับนายเปรมชัยและคดีที่เกิดขึ้น และในวันที่ถูกจับกุมไม่ได้ติดต่อมาจากนายเปรมชัยแต่อย่างใด แต่ก็ยอมรับว่าก่อนที่นายเปรมชัยจะเข้าพื้นที่ ตนได้ติดต่อกับนางกาญจนาจริง เพราะขอเบอร์โทรศัพท์นายวิเชียรเท่านั้น

อย่างไรก็ตาม นายนพดล ขอให้พนักงานสอบสวนระบุไว้ในท้ายสำนวนว่า นายเปรมชัย ไม่ได้เข้าไปเพื่อล่าสัตว์ ทั้งนี้ การสอบปากคำวันนี้เสร็จสิ้นแล้ว ไม่จำเป็นต้องนัดมาสอบปากคำเพิ่มเติม และจะรีบสรุปสำนวนส่งศาลทุจริตภาค 7 ให้ทันภายในวันที่ 30 มี.ค.นี้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน