เมื่อเวลา 02.30 น. วันที่ 29 มี.ค. ร.ต.อ.พรไพสนธ์ กลัดเฟื้อง ร้อยเวร สภ.ลานสัก จ.อุทัยธานี รับแจ้งเหตุคนยิงตัวเสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 194 ม.2 บ้านพุโรม ต.ลานสัก อ.ลานสัก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และรุดไปตรวจสอบพร้อมพ.ต.ท.สันติ ทองเชื้อ รอง ผกก.(สอบสวน) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์เวรโรงพยาบาลลานสัก และกู้ภัยอุทัยธานี(จุดลานสัก)
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้าน 2 ชั้น ครึ่งตึกครึ่งไม้ พร้อมกับเจอญาติผู้เสียชีวิตอยู่ภายในบ้าน พบศพนายสม สีเเดง อายุ 86 ปี สภาพศพนอนหงาย จมกองเลือดที่ศีรษะยังมีเลือกไหลออกมา อยู่บนเตียงนอนชั้นล่างของบ้าน สวมเสื้อสีเทา กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน พบปืนไทยประดิษฐ์ขนาด .38 แบบหักลำ ตกอยู่ข้างที่นอนของผู้เสียชีวิต
จากการสอบสวนนางจงจิตร อ่อนสิงห์ อายุ 50 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ให้การว่า นายสมมีภรรยาชื่อนางลิ้ม สีเเดง อายุ 86 ปี ก่อนเกิดเหตุนายสมมีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน และมีอาการโรคคนแก่หลงๆลืม เดินไปเรื่อย ส่วนนางลิ้มก็มีอาการเช่นกันกับนายสม หลงๆลืมๆ โดยเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 28 มี.ค.ที่ผ่านมา ยังได้กินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากันอย่างปกติ หลังจากกินข้าวเสร็จต่างก็แยกกันเข้านอน ส่วนนายสมนอนกับนางลิ้มบนเตียงนอนชั้นล่าง
นางจงจิตร กล่าวต่อว่า จนกระทั่งเวลา 02.00 น. ตนได้ยินเสียงคล้ายกับเสียงตู้เย็นระเบิดดังมาจากชั้นล่างที่นายสมนอน หลังจากนั้น เสียงก็เงียบไป ตนก็รีบมาดูที่บ้านของนายสม หลังจากเปิดไฟในบ้านก็ได้วิ่งไปดูที่มุ้งของนายสม ก็เห็นเลือดที่หัวด้านขวาเต็มหมอน พร้อมกับเนางลิ้ม ซึ่งเป็นภรรยาซึ่งมีอาการไม่รู้เรื่องอะไร จึงได้นำตัวแม่ลิ้มออกมาจากที่นอน ซึ่งตนรู้สึกตกใจจึงให้ลูกสาวโทรศัพท์เเจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาดูที่เกิดเหตุดังกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.สันติ กล่าวว่า จากการตรวจสอบหาสาเหตุการเสียชีวิตของผู้ตาย พบว่านายสมมีอาการหลงๆลืมจากการได้ยิน จากปากของลูกสาว เเละเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้ตรวจสอบโดยรอบบริเวณที่เกิดเหตุ ไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้าย และพบนายสมนอนเสียชีวิตในสภาพถูกยิงที่หัวขมับข้างขวาด้วยอาวุธปืนไทยประดิษฐ์ 1 นัด พบลูกกระสุนปืนตกอยู่ข้างเตียงนอน 1 นัด สภาพบ้านไม่มีรอยหรือค้น ซึ่งตอนนี้ได้เก็บอาวุธปืน .38 แบบไทยประดิษฐ์ นัดเดียวหักลำ ไว้เป็นของกลาง เพื่อเป็นหลักฐาน
พร้อมกับนำผู้ตายไปตรวจหาสาเหตุตามร่างกาย ที่โรงพยาบาลลานสักอีกครั้งเพื่อให้ความเเน่ชัดให้กับญาติของผู้เสียชีวิต หลังจากนั้นทางญาติก็ไม่ได้ติดใจเอาความ ก็จะมอบให้ญาตินำศพไปทำพิธีศาสนาต่อไป
