จากกรณีมีหญิงสาวชื่อเมย์ โทรศัพท์มาหา น.ส.นพเก้า พราหมโสภา อายุ 19 ปี ชาว อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี สาวยอดกตัญญูที่ดูแลผู้พิการ 3 คนและหลานอีก 2 คน โดยแอบอ้างว่าเป็นนักข่าวสำนักดังแห่งหนึ่ง แล้วแจ้งว่ามียอดเงินบริจาคผ่านสำนักข่าว 620,000 บาท แต่ต้องเสียค่าภาษีเป็นเงิน 180,000 บาท พร้อมกับพูดจาหว่านล้อมต่างๆ นานา จน น.ส.นพเก้า หลงเชื่อแล้วโอนเงินจำนวนดังกล่าว ผ่านบัญชีธนาคารกสิกรไทย ชื่อบัญชี MS.WILAILAK INTHARAPHITA หมายเลขบัญชี 0301131682 จนสุดท้ายมาทราบภายหลังว่าถูกนางเมย์หลอก จึงเดินทางเข้าแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.บ้านโป่ง

ล่าสุด เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 29 มี.ค. พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จ.ราชบุรี พ.ต.อ.โชติช่วง ภาณุทัต ผกก.กก.สส.ภ.จ.ราชบุรี พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย อินทรปรีชา ผกก.สภ.บ้านโป่ง พร้อมกำลังชุดสืบสวน ภ.จ.ราชบุรี และชุดสืบสวน สภ.บ้านโป่ง นำตัว น.ส.วิไลลักษณ์ อินทรพิทักษ์ อายุ 37 ปี ชาว อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับข้อหาฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น มาเข้าพบกับ น.ส.นพเก้า พราหมโสภา เจ้าทุกข์ และนายอดุลย์ นิมิตนิวัฒน์ กำนัน ต.ดอนกระเบื้อง แล้วแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน

พล.ต.ต.อนุภาพ ศรีนวล ผบก.ภ.จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า หลังจากรับเรื่องทางชุดสืบสวนได้เร่งออกติดตามจนสามารถควบคุมตัว น.ส.วิไลลักษณ์ ได้ที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านถนนนิมมานเหมินทร์ ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ เมื่อวัน 28 มี.ค. ที่ผ่านมา

เบื้องต้น น.ส.วิไลลักษณ์ รับสารภาพว่า ทราบข่าวจากทางสื่อออนไลน์ว่ามีสาวยอดกตัญญูดูแลผู้พิการและหลานใน จ.ราชบุรี แล้วมีผู้ใจบุญโอนเงินเข้ามาช่วยเป็นจำนวนมาก จึงวางแผนโทรศัพท์ติดต่อแอบอ้างเป็นนักข่าวสำนักดัง หลอกว่ามีเงินบริจาคในบัญชีของสำนัก แต่จะต้องเสียค่าภาษี เมื่อได้เงินแล้วได้นำไปใช้หนี้นอกระบบ

ทั้งนี้ พล.ต.ต.อนุภาพ ผบก.ภ.จ.ราชบุรี สั่งการให้พนักงานสอบสวนเร่งสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐานประกอบสำนวนส่งฟ้องศาลเพื่อฝากขังผู้ต้องหาต่อไป ส่วนเรื่องค่าเสียหายเป็นการตกลงกันระหว่างผู้เสียหายกับผู้ต้องหา โดยเบื้องต้นผู้ต้องหาจะนำเงินมาใช้ก่อน 50,000 บาท และส่วนที่เหลือจะผ่อนชำระให้

ผู้เสียหายตกลงแต่ยืนยันยังไม่ถอนแจ้งความ ต้องให้ผู้ต้องหาใช้หนี้ให้หมดเสียก่อนจึงจะถอนแจ้งความ เพราะเงินดังกล่าวเป็นของประชาชนผู้ใจบุญที่บริจาคมา ไม่ใช่เงินส่วนตัวของตน

ทางด้าน น.ส.นพเก้า พราหมโสภา เผยว่า ตนอยากขอโทษผู้ใจบุญทุกท่านที่ตนเองโอนเงินไปให้คนร้ายด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เนื่องจากตนไม่รู้ว่าเงินบริจาคแบบนี้จะต้องเสียภาษีหรือไม่ ซึ่งนับจากนี้ไปทางครอบครัวได้ตกลงกันว่าจะให้อามาลงชื่อเป็นบัญชีร่วม รวมไปถึงยกเลิกบัตรเอทีเอ็มและระบบแบงค์กิ้งทางอินเตอร์เน็ต

นอกจากนั้นตนอยากขอขอบคุณกำนันอดุลย์ กำนัน ต.ดอนกระเบื้อง เจ้าหน้าที่ตำรวจ และสื่อมวลชน ที่ช่วยออกตามตัวคนร้ายมาได้อย่างรวดเร็ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน