เมื่อเวลา 03.30 น. วันที่ 30 มีนาคม ร.ต.อ.อุทิศ กลิ่นพิมาย พนักงานสอบสวน สภ.วังน้ำเขียว อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา รับแจ้งเหตุช้างป่าทำร้ายคนเสียชีวิตในป่าอ้อย เขตบ้านสันกำแพง หมู่ 12 ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จึงรุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ในพิกัด UTM ระบบ WGS84 ที่ 47P 0790016 E 1592526 N ห่างจากเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ประมาณ 500 เมตร พบร่างนายอุทร คานทอง อายุ 70 ปี อยู่บ้านเลขที่ 191 ม.12 บ้านสันกำแพง ต.วังหมี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา เสียชีวิตในสภาพมีบาดแผลฉกรรจ์หลายแห่ง ทั้งกระดูกแขนขาหักทั้ง 2 ข้าง และหน้าอกยุบ ห่างออกไปเล็กน้อยมีไฟฉายและรองเท้าแตะซึ่งเป็นทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตตกหล่น รวมทั้งพบช้างป่าตกมัน ซึ่งชาวบ้านเรียกว่า “เจ้าเบี่ยง” ยืนมองอยู่ห่างๆ เจ้าหน้าที่ต้องคอยระมัดระวังเกรงช้างป่า ที่ยังคงมีอาการตื่นตกใจจะวิ่งเข้ามาทำร้าย หลังชันสูตรพลิกศพและตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุเสร็จสิ้น จึงมอบหมายให้หน่วยกู้ภัยฮุก.31 นครราชสีมา เคลื่อนย้ายศพไปเก็บรักษาที่โรงพยาบาลวังน้ำเขียว เพื่อให้แพทย์นิติเวช ชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตตามกระบวนการ

ร.ต.อ อุทิศ ฯ พนักงานสอบสวนเวร ฯ เปิดเผยว่า จากการสอบปากคำพยานแวดล้อม ระบุนายอุทร ฯ ผู้เสียชีวิต ได้เฝ้าไร่ข้าวโพดเพียงลำพัง พบเห็นช้างป่าตัวดังกล่าว เดินออกมาจากผืนป่าเขาใหญ่มาหากินพืชไร่ที่ชาวบ้านปลูกไว้ ขณะที่ช้างป่ากำลังกินอ้อยที่อยู่ติดกับไร่ข้าวโพดของนายอุทรฯ ด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้เดินไปไล่ช้างป่าที่กำลังตกมัน โดยใช้ไฟฉายส่องทำให้ช้างป่าตกใจเข้ามาทำร้ายนายอุทร ฯ ได้พยายามวิ่งหนีเอาตัวรอด ซึ่งพบรองเท้าที่ไฟฉายตกหล่นห่างจากจุดที่พบศพ ด้วยสภาพร่างกายที่สูงวัยประกอบกับในขณะวิ่งหนีได้ลื่นล้ม ทำให้ช้างป่าวิ่งตามมาทันได้ทำร้ายจนเสียชีวิต

ด้านนายครรชิต ศรีนพวรรณ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเวลา22.20 น. เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่ากลับคืนสู่ป่าเขตการจัดการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ได้รับแจ้งจากชาวบ้านที่เฝ้าระวังช้างประจำไร่ข้าวโพดหายตัว จึงสนธิกำลังร่วมชุดเฝ้าระวังผลักดันช้างคืนสู่ป่าตำบลวังหมี ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่เขาใหญ่ ฝ่ายปกครองและผู้นำชุมชน เข้าผลักดันช้างและค้นหาเจ้าของไร่ข้าวโพด ใช้เวลากว่า 4 ชั่วโมง พบร่างนายอุทร ฯ เสียชีวิตบริเวณไร่อ้อยห่างจากไร่ข้าวโพดประมาณ 150 เมตร และพบ “ เจ้าเบี่ยง ” ช้างป่าที่มีอาการตกมันที่ทำร้ายคนเสียชีวิต

พฤติการณ์ของ “เจ้าเบี่ยง” ซึ่งเป็นช้างป่าเพศผู้ มีอายุมากกว่า 10 ปี ได้ถูกขับไล่ออกจากฝูง จึงต้องออกมาหากินตามลำพัง ด้วยตามประสาของช้างป่าวัยฉกรรจ์ที่เดินหากินเรื่อยๆ เมื่อเห็นอ้อยและข้าวโพด จึงติดใจรสชาติประกอบกับหากินง่ายและมีจำนวนมาก โดยช่วงกลางวันเข้าไปในผืนป่ากลางคืนก็ออกมาหากิน ก่อนหน้านี้ที่มีปัญหาสัตว์ป่ากับมนุษย์กระทบกระทั่งกัน เป็นสาเหตุให้กระทิงและสัตว์ป่าถูกยิงตาย ทุกภาคส่วนจึงจัดตั้งชุดผลักดันช้างป่า เพื่อลงพื้นที่จัดกิจกรรมให้ความรู้แก่ผู้นำชุมชนและชาวบ้านให้เข้าใจกับพฤติการณ์ของช้างป่า เมื่อพบเห็นให้รีบแจ้งตามช่องทางที่ประสานงานไว้ ชุดผลักดัน ฯ ซึ่งเป็นหน่วยเคลื่อนที่เร็วจะรีบเดินทางมาปฏิบัติหน้าที่ทันที คาดนายอุทร ฯ ที่ไปไล่ช้างป่าลำพัง เป็นเหตุให้ “ เจ้าเบี่ยง ” ที่กำลังกินอ้อยอย่างเอร็ดอร่อย และกำลังตกมันเกิดโมโหทำร้ายจนเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ในผืนป่าเขาใหญ่ ยังมีอาหารให้สัตว์ป่ากินตามปกติ ไม่ได้ขาดแคลนแต่อย่างใด มิเช่นนั้นจะพบเห็นฝูงช้างนับสิบตัวหรือฝูงสัตว์ป่าลงมากินพืชไร่ของชาวบ้านเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จะดูแลครอบครัวและร่วมจัดพิธีบำเพ็ญกุศลศพนายอุทร ฯ ตามความเหมาะสมและวางมาตรการเข้ม เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน