เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 พ.ย. เกษตรกรชาวนาจากอำเภอวังทรายพูน อำเภอสากเหล็ก และอำเภอเมืองพิจิตร กว่า 300 คน เดินทางมาที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร เพื่อยื่นหนังสือร้องทุกข์ให้กับผู้ว่าราชการจังหวดพิจิตร เพื่อส่งต่อให้รัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาเรื่องราคาข้าวตกต่ำ และปัญหาเรื่องราคาข้าวที่โรงสีรับซื้อ โดยมีนางจิตรพิมาน แก้วทอง ตัวแทนเกษตรกรตำบลหนองปลาไหล อ.วังทรายพูน นายเทียนชัย เจียมศรีชัย ตัวแทนเกษตรกรตำบลหนองพระ อ.วังทรายพูน นายสมหมาย สนามทอง ตัวแทนเกษตรกรตำบลวังทรายพูน และนางละมัย สิงห์เถื่อน ตัวแทนเกษตรกรตำบลหนองปล้อง อ.วังทรายพูน โดยมีเกษตรกรชาวนาตำบลสายคำโห้ อำเภอเมืองพิจิตร และอำเภอสากเหล็ก บางส่วนเข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้

201611101402171-20041020141203

ต่อมานายวีระศักดิ์ วิจิตร์แสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ออกมารับหนังสือร้องเรียนกับกลุ่มเกษตรกรชาวนา 3 อำเภอ 7 ตำบล ซึ่งนางจิตรพิมาน แก้วทอง ตัวแทนเกษตรกรชาวนาตำบลหนองปลาไหล กล่าวว่า ที่มาในวันนี้เพราะเกษตรกรชาวนาพวกเราอยู่ไม่ได้แล้ว โดยเฉพาะค่าปุ๋ย ค่ายา ค่ารถเกี่ยว ตอนนี้เราทำนาแล้วขาดทุน เพราะราคาข้าวตกต่ำ ซึ่งไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน อยากจะขอความช่วยเหลือจากรัฐบาล ว่าจะเยียวยาและช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาอย่างไร ตอนนี้มีการเก็บเกี่ยวข้าวไปแล้วเป็นบางส่วน ซึ่งวันนี้พวกเราทำหนังสือถึงท่านประยุทธ์ จันทร์ปรีชา นายกรัฐมนตรีเพื่อให้ออกมาช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด

201611101402176-20041020141203

นางจิตรพิมาน กล่าวอีกว่า ตอนนี้ชาวนาเกี่ยวข้าวได้ในราคา 5,800/เกวียน อีกอาทิตย์เดียวก็จะเก็บเกี่ยวหมดแล้ว ตอนนี้เหลือข้าวหอมมะลิ 105 ที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว เพราะโรงสีกดราคาข้าว ตรงนี้อยากให้รัฐบาลออกมาช่วยเหลือเกษตรกร เพราะเราเดือดร้อนกันจริงๆ หากไม่เดือดร้อน พวกเราคงไม่ออกมารวมตัวกันแบบนี้ ตรงนี้ฝากท่านผู้ว่าฯให้เร่งดำเนินการเร่งด่วน ซึ่งพวกเราอยากรู้ผลในเรื่องการช่วยเหลือ

201611101402175-20041020141203

ด้านนายวีระศักดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลออกมาช่วยเหลือเกษตรกรทางอ้อม โดยเฉพาะเรื่องเงินช่วยเหลือในการทำนา 10,000 บาท แต่เมื่อเกษตรกรเดือดร้อนในช่วงที่เก็บเกี่ยวผลผลิต รัฐบาลได้ให้เงินช่วยเหลือฟรี ไร่ละ 800/ไร่ แต่ไม่เกิน 15 ไร่ รวมแล้ว 12,000 บาท

201611101402174-20041020141203

นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า การช่วยเหลือทางอ้อมนั้น เป็นการช่วยเหลือจากรัฐบาล เพราะราคาข้าวในตลาดโลกนั้นตกต่ำ ไม่เฉพาะที่ประเทศเราประเทศเดียว ตอนนี้เรามีคู่แข่งทางการค้า คือประเทศ จีน พม่า อินเดีย เวียดนาม ที่เป็นคู่แข่งทางการค้าข้าวที่สำคัญ เมื่อตลาดน้อยลง ตลาดโลกมีการแข่งขันกันมากขึ้น ทำให้ปัญหาเรื่องข้าวของเรามีปัญหามาโดยตลอด ส่วนที่บอกว่าทำไม่รัฐบาลไม่ช่วยเหลือเกษตรกรชาวนาทางตรง ที่ผ่านมา รัฐบาลช่วยเงินในการทำนาไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ ก็ 1 หมื่นบาทแล้ว เฉพาะในพิจิตรชาวนาได้รับการช่วยเหลือเป็นวงเงิน 386 ล้านบาท รวมทั้งประเทศเป็นเงินมากมายมหาศาล ซึ่งตรงนี้รัฐบาลจะหาวิธีทางในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ โดยวิธีการช่วยเหลือทางอ้อม

นายวีระศักดิ์ กล่าวอีกว่า เดิมทีจังหวัดพิจิตรไม่ได้อยู่ในข่ายของการช่วยเหลือ แต่หลังจากที่รัฐบาลทราบปัญหา ทางรัฐบาลได้ออกมาเยียวยาช่วยเหลือทางอ้อมอีก 12,000 บาท ซึ่งไม่เฉพาะที่พิจิตรที่เดียว แต่รัฐบาลช่วยเหลือชาวนาทั้งประเทศ โครงการรับจำนำข้าว จริงๆแล้วมันไม่ได้เป็นโครงการรับจำนำข้าวหรอก เพราะรู้ๆกันอยู่ว่า ที่ผ่านมา เมื่อเก็บเกี่ยวข้าวก็ขายเลย ตรงนี้แหละที่ทำให้เกิดปัญหา กรณีที่จะเรียกร้องให้ได้ราคา 10,000-12,000 บาท/เกวียนนั้น มันเป็นไปตามกลไกของตลาด

นางจิตรพิมาน ถามว่า ตอนนี้เกษตรกรยังไม่รู้เลยว่า พวกเราจะขายข้าวแบบไหน เพราะเราไม่รู้ราคากลางที่กำหนดแน่ชัด เพราะบางพื้นที่พ่อค้ากับโรงสี ซื้อเกวียนละ 5,500-5,600/เกวียน บางที่ก็ได้น้อยกว่านี้ ตรงนี้อยากให้ทางจังหวัดกำนดราคาที่ชัดเจนว่าโรงสี และผู้ซื้อข้าวกำหนดราคาอย่างไร เพราะเราอยู่ไม่ได้ ซึ่งเราอยากขายได้ในราคา 8,000-9,000 บาท/เกวียน

นายวีระศักดิ์ กล่าวว่า “เรื่องราคากลาง ตอนนี้ยังสรุปไม่ได้ ต้องให้พาณิชย์จังหวัดออกมาชี้แจงในเรื่องนี้ และตรวจสอบว่าโรงสีและกลุ่มพ่อค้าที่รับซื้อข้าวให้ความเป็นธรรมหรือไม่ เพราะแต่ละพื้นที่รับซื้อข้าวไม่เหมือนกัน ซึ่งข้อเท็จจริงเรื่องราคาข้าวนั้นเป็นไปตามกลไกตลาดข้าว จังหวัดกำหนดเองไม่ได้ ส่วนเรื่องการตรวจสอบโรงสีข้าวในเรื่องการรับซื้อข้าวนั้น ตรงนี้จะเป็นการป้องกันเรื่องการแทรกแซงราคาการตลาดโดยตรง ปัญหาเรื่องข้าวผมทราบและเข้าใจกลไกและปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็พยายามหาวิธีการช่วยเหลือมาโดยตลอด สรุปว่า วันนี้ผมจะรายงานไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อรับเรื่องที่เกษตรกรชาวนามาร้องเรียนผมในวันนี้ ซึ่งพรุ่งนี้คงรู้ผล”

ภายหลังการยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร นางจิตรพิมาน แก้วทอง แกนนำเกษตรกรชาวนาตำบลหนองปลาไหล ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ถึงการรวมตัวกลุ่มเกษตรกรชาวนาเพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาเรื่องราคาข้าวตกต่ำ ว่า ที่รวมตัวกันมาเรียกร้องเรื่องปัญหาราคาข้าวตกต่ำในวันนี้ มี 4 ตำบล ของอำเภอวังทรายพูน

นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรชาวนาจากอำเภอสากเหล็ก ส่วนหนึ่งจากตำบลสายคำโห้ และตำบลหนองไผ่ มาร่วมด้วย เนื่องจากว่า เกษตรกรชาวนามีความเดือดร้อนจริงๆที่เราจำเป็นจะต้องมาในวันนี้ โดยเฉพาะในเรื่องของราคาข้าว เนื่องจากว่าที่เราทราบล่าสุดในเรื่องนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการจำนำข้าวในยุ้งฉาง ปัญหาคือในพื้นที่เราไม่มียุ้งฉาง หรือลานตากข้าว เรามีปัญหาหมด ที่มีเหลือก็ค่อนข้างน้อย หากนับจำนวนที่เราแจ้งปลูกข้าวหรือทำนากันจริงๆ มันไม่เพียงพอ ปัญหาของเราคือ เราขายข้าวสดหน้ากิโลเลยว่าราคา ณ ปัจจุบันที่รับซื้อกันอยู่ล่าสุดเมื่อวานนี้ อยู่ที่ 5,800-6,100 บาท/เกวียนเท่านั้นเอง ซึ่งมันอยู่ไม่ได้ เพราะดูจากต้นทุนการผลิตแล้ว พวกเราอยู่ไม่ได้จริงๆ

“ที่มาเรียกร้องในวันนี้ คือเรื่องราคาข้าวสด ส่วนเรื่องการช่วยเหลือทางอ้อมจากรัฐบาลไร่ละ 800/ไร่ แต่ไม่เกิน 15 ไร่ เป็นเงิน 12,000 บาท ตรงนี้ไม่เพียงพอจริงๆ เราได้ปรึกษาหารือกันแล้วว่าอยู่กันไม่ไหวจริงๆ ตอนนี้อยากให้ราคาข้าวสดอยู่ที่ 8,000 บาท/เกวียน เท่านั้น ซึ่งมูลค่าการขายข้าวเมื่อปีที่แล้วอยู่ที่เกวียนละ 9,000-10,000 บาท แต่ในปีนี้ตกลงมาก เมื่อคำนวณจากต้นทุนการผลิต ไม่ว่าการไถ การหว่าน การดำ หรือแม้กระทั่งค่าเช่านาซึ่งมีราคาสูง หลังจากที่ในปีที่มีการจำนำข้าวมีการถีบตัวสูงมากต่อไร่ 1,000-2,000 บาท นอกจากนี้ยังมีค่ารถเกี่ยว และอื่นๆอีกจิปาถะ ซึ่งมาคำนวณดูแล้วมันอยู่ไม่ไหวจริงๆ โดยเฉพาะเรื่องภาระหนี้สินที่ต้องเป็นหนี้กับ ธกส.หรือ หนี้สินจากส่วนอื่น” นางจิตรพิมาน กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มอีกว่า วันที่ 11 พ.ย.2559 กลุ่มเกษตรกรจะส่งตัวแทนตำบลละ 2 คน มาที่ศาลากลางจังหวัดพิจิตร เพื่อรอผลการช่วยเหลือจากรัฐบาล ว่าจะให้การช่วยเหลือเกษตรกรอย่างไร

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน