เดือดกลางถนน ตำรวจยิงสนั่น สกัดแก๊งยาบ้า ขนมาจากภาคอีสาน ยึดได้เกือบ 2 ล้านเม็ด

เดือดกลางถนน ตำรวจยิงสนั่น สกัดแก๊งยาบ้า ขนมาจากภาคอีสาน สุดท้ายจนมุม ยึดของกลางได้เกือบ 2 ล้านเม็ด พร้อมผู้ต้องหา 4 ราย ส่งดำเนินคดี

วันที่ 12 ส.ค.2567เมื่อช่วงดึกที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภูธรจังหวัดสระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนภูธรภาค 1 และ จนท.ตร.บช.ปส. รับรายงานจากสายลับว่าจะมีการลำเลียงยาบ้าจำนวนมาก มาจากภาคอีสานเพื่อนำมาส่งให้ลูกค้าในเขตภาคกลางใช้เส้นทางถนนมิตรภาพ โดยใช้รถกระบะตู้ทึบ อีซูซุ สีขาว

ผู้บังคับบัญชาจึงได้สั่งการให้ พ.ต.อ.ไกรสร ศรีอําพร ผกก.สส.ภ.จว.สระบุรี หน.ชปส.ภ.1 ชุดที่ 2 พร้อมกำลัง จนท.ตร.ชปส.ภ.1 ชุดที่ 2 จนท.ตร ชุดคชสาร จนท.ตร.บช.ปส, หน่วยข่าวกรองทางทหาร ศูนย์ปฏิบัติการหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ สภ.แก่งคอย สภ.เมืองสระบุรี และสภ.มวกเหล็ก วางกำลังสกัดรถคันดังกล่าวตามเส้นทางบนถนนมิตรภาพ

ต่อมามีรถต้องสงสัยลักษณะเดียวกันกับที่สายรายงานขับเข้ามาเขต อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี มุ่งหน้าเข้า จ.สระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขับรถติดตามไปอย่างกระชั้นชิด แต่รถคันดังกล่าวไหวตัวทัน โดยมีรถเก๋งมาสด้า สีเทา ขับนำหน้ามาเพื่อสำรวจเส้นทาง รถกระบะตู้ทึบ อีซูซุ สีขาวที่ใช้ขนยาบ้า และรถเก๋ง มาสด้า สีเทา ได้เร่งเครื่องหลบหนีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน

กระทั่งต่อมาได้ติดตามมาทันช่วง ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จึงส่งสัญญาณให้หยุด แต่รถทั้ง 2 คันไม่ยอมหยุด เร่งเครื่องฝ่าวงล้อมและพยายามพุ่งชนเจ้าหน้าที่ตำรวจ และรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนจึงใช้ปืนยิงสกัดไปที่ล้อยางรถของคนร้าย พร้อมขับติดตามจนรถของคนร้ายถูกยิงยางรั่วไม่สามารถไปต่อได้

คนร้ายวิ่งหนีเข้าไปในป่าข้างทาง จนเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามจับกุมตัวได้ผู้ต้องหาขับรถลำเลียง และขับรถนำทาง ได้ผู้ต้องหาทั้งหมด 4 คน คือ

1.นายณัฐชัย อายุ 34 ปี (ขับรถลำเลียง)

2.นายยุรนันท์ (ต้อม) อายุ 39 ปี

3.นายประพัฒน์ อายุ 28 ปี( ขับรถนำ)

4.นายไพฑูรย์ อายุ 29 ปี

พร้อมด้วยของกลางตรวจยึด ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ประมาณ 1,720,000 เม็ด ที่บรรทุกอยู่ในรถกระบะตู้ทึบ อีซูซุ สีขาว( ใช้ลำเลียงยาบ้า) และรถเก๋งมาสด้า สีเทา (ใช้สำรวจเส้นทาง)

โดยตั้งข้อหาทั้งหมด ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์หรือเมทแอมเฟตามีน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ พร้อมนำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คนส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจพนักงานสอบสวนท้องที่ ดำเนินคดีตามกฎหมายพร้อมจะทำการสอบสวนเพื่อขยายผลติดตามหาผู้ร่วมกระบวนการและผู้บงการต่อไป