ผงะเจอป้าอยู่ในท่อ! พลัดตกบนฟุตปาธหน้าบ้านไม่มีใครเห็น จมน้ำครำลึกเกือบเมตร

ช่วยวุ่นหญิง 54 พลัดตกท่อบนฟุตปาธหน้าบ้านพักไม่มีใครเห็น กระทั่งชาวบ้านมาเจออยู่ในจมน้ำครำลึกเกือบเมตร เทศบาลยอมรับผิด คาดเจ้าหน้าที่มาเปิดดูเตรียมรับน้ำหนุนแล้วปิดฝาไม่สนิท

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 2 ก.ย.2567 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร รับแจ้งขอความช่วยเหลือเกิดเหตุหญิงเดินพลัดตกท่อระบายน้ำ ริมถนนเศรษฐกิจ ต.มหาชัย อ.เมืองสมุทรสาคร จ.สมุทรสาคร จึงประสานเจ้าหน้าที่เทศบาล แล้วรีบรุดไปช่วยเหลือพร้อม นายศักดิ์ชัย นิมิตรปัญญา รองนายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่กองช่างของเทศบาล เจ้าหน้าที่กู้ชีพรพ.มหาชัย และกู้ชีพรพ.เจษฎาเวชการ

ที่เกิดเหตุเป็นท่อระบายน้ำบนฟุตปาธ พบร่างนางวิภารัตน์ อายุ 54 ปี นั่งหมดแรงอยู่ในท่อกว้างประมาณ 1 เมตร ลึกจากพื้นถนนลงไปประมาณ 2 เมตรเศษ ระดับน้ำในท่อสูงขึ้นมาเกือบ 1 เมตร ร่างกายเปียกน้ำครำจนถึงศีรษะ เจ้าหน้าที่รีบช่วยเหลือนำตัวขึ้นมาจากท่อ พบมีบาดเล็กน้อยตามร่างกาย แต่ยังอยู่ในอาการตกใจแขนขาอ่อนแรง ก่อนนำน้ำสะอาดมาล้างหน้าล้างตาพาส่งรพ.มหาชัย โดยเทศบาลฯเป็นผู้รับผิดชอบดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมด

นางวิภารัตน์ บอกว่า ท่อนี้ตั้งอยู่ตรงหน้าบ้านพัก ซึ่งพอตนเดินเหยียบลงไปบนฝาท่อที่เป็นแผ่นปูนปรากฏว่า ฝาท่อผลุบลงไปทันที ทำให้ตกลงไปพร้อมกันทั้งคนทั้งฝาท่อจะร้องให้คนในบ้านออกมาช่วยก็ไม่มีแรง เพราะอยู่ในอาการตกใจ กระทั่งมีคนเห็นแล้วไปกดออดหน้าบ้านบอกลูกสาวให้ออกมาดูแล้วแจ้งเจ้าหน้าที่มาช่วยเหลือ

ด้านลูกสาว เล่าว่า ตอนนั้นทุกคนอยู่ในบ้านไม่ได้ยินเสียงหรือเห็นเหตุการณ์ที่แม่ตกลงไปในท่อ มารู้ก็ตอนที่มีคนมาบอกว่า แม่ตกลงไปในท่อแล้ว ปกติฝาท่อตรงนี้จะปิดไว้เสมอ แต่วันนี้ไม่รู้ว่าใครมาเปิดตั้งแต่เมื่อไหร่และอาจจะปิดไม่สนิททำให้พอเหยียบลงไปฝาท่อเกิดพลิกก็เป็นได้

ขณะที่นายศักดิ์ชัย ระบุ จากการสอบถามเจ้าหน้าที่เบื้องต้น ทราบว่าเหตุช่วงเช้านี้เจ้าหน้าที่ได้รับคำสั่งให้มาสำรวจท่อระบายน้ำทุกท่อ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับน้ำทะเลหนุนและน้ำหลากจากตอนบน คาดเจ้าหน้าที่ปิดฝาท่อนี้ไม่สนิทหรืออาจจะยังปิดไม่สนิทเพื่อรอนำเครื่องจักรมาดูดขยะมูลฝอยจึงทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น

เทศบาลยอมรับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นและได้ดูแลผู้บาดเจ็บทั้งหมด นอกจากนี้ยังสั่งเจ้าหน้าที่ออกสำรวจฝาท่อทุกแห่งด้วยว่าปิดไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้วหรือไม่ และห้ามเกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก ส่วนมูลเหตุที่เกิดขึ้นนั้นจะได้เรียกเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานมาสอบสวนหาข้อเท็จจริงต่อไป