กัน จอมพลัง เข้าช่วย ด.ช.วัย11 ถูกล่ามโซ่ ริมหาดพัทยา ตรวจพบพ่อฉี่ม่วง แจงเหตุต้องทำกับลูกแบบนี้ ยันไม่ได้โกรธเกลียดลูก ก็ต้องขอโทษสังคม
จากกรณีโซเชียลแชร์คลิปเด็กผู้ชายกำลังยืนสูบบุหรี่ไฟฟ้า อยู่หน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง จนภายหลังทราบว่าเด็กชาย อายุ 11 ปี และมักจะชอบหนีออกจากบ้าน ครอบครัวต้องออกตามหา ถึงขั้นเคยโพสต์ตามหาเด็กหายนับครั้งไม่ถ้วน
ต่อมาทางเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี มารับตัวเด็กไปอยู่ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี เพื่อทำการประเมินและเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟู แต่ทางผู้ปกครองมีความประสงค์ขอรับเด็กมาเลี้ยงดูเอง
ล่าสุดวันที่ 8 ก.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อกลางดึก วันที่ 7 ก.ย. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ควงภรรยา พร้อมทีมงานเดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.นาวิน ธีระวิทย์ ผกก.สภ.เมืองพัทยา เพื่อขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดย พ.ต.ท.สิทธาภรณ์ แท้เที่ยง สว.สส.สภ.เมืองพัทยา ประสานเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ร่วมไปตรวจสอบที่บริเวณชายหาด หลังมีนักท่องเที่ยวส่งคลิปมาร้องเรียนว่ามี เด็กชาย ที่เคยปรากฎในคลิปข่าวดังถูกผู้ปกครองใช้โซ่ล่ามไว้กับเก้าอี้ บริเวณชายหาดพัทยา ห่างจากหน้าสถานีตำรวจเพียง ไม่กี่ร้อยเมตร
เมื่อนำกำลังเดินเท้าไปริมชายหาด พบพ่อและแม่ของเด็กกำลังปล่อยเสื่อให้นักท่องเที่ยวเช่านั่ง ส่วนลูกชายถูกล่ามโซ่กับข้อเท้า ล็อกกุญแจไว้ขาเก้าอี้ จึงเชิญตัวทั้งหมดมาที่ห้องสืบสวน สภ.เมืองพัทยา
กัน จอมพลัง กล่าวว่า หลังจากเห็นคลิปวิดีโอดังกล่าวก็รู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากเมืองพัทยาเป็นเมืองท่องเที่ยวหลักของประเทศ หากมีคนเห็นก็จะเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวได้ ก็จะมองว่าเป็นเรื่องไร้อารยะ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ พม.ได้รับตัวเด็ก ไปดูแลแล้ว แต่มองว่าไม่ได้มีพฤติกรรมความรุนแรง
รวมไปถึงผู้ปกครองประสงค์ที่จะรับกลับ แต่ไม่มีเงื่อนไขที่จะให้ผู้ปกครองล่ามโซ่ไว้ แต่เมื่อเห็นคลิปได้สอบถามตัวพ่อ ก็ยอมรับว่าได้กลับมาลามโซ่ลูกไว้เพราะกลัวลูกจะหนีไปสร้างความเดือดร้อนอีก ซึ่งตนเองมองว่าน่าจะมีทางออกที่ดีกว่านี้
ด้าน น.ส.เอ.(นามสมมติ) เบลอหน้า นักท่องเที่ยวที่ส่งคลิปไปร้องเรียน เปิดเผยว่า ได้เห็นคลิปจากนักท่องเที่ยวมาสอบถามว่าอยากจะช่วยเหลือเด็ก จะมีวิธีใดได้บ้าง จึงส่งคลิปไปยังเพจกันจอมพลัง ซึ่งในมุมมองของตนนั้น หากมองว่าเด็กป่วยหรือไม่สมประกอบ ก็เป็นเรื่องที่ไม่สมควรและน่ามีวิธีที่ดีกว่านี้
ซึ่งตนสังเกตถึงพฤติกรรมที่ผู้ปกครองใช้ให้เด็ก เอาเสื่อไปให้นักท่องเที่ยว ก็จะถอดโซ่ออกจากขา ซึ่งตัวน้องก็มีความรู้สึกดีใจ หลังนำเสื่อไปให้ลูกค้าเสร็จ ก็ต้องกลับมาถูกล่ามโซ่ไว้เหมือนเดิม
ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ตรวจหาสารเสพติดในร่างกายของพ่อคือนายศักดา (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี พบว่าปัสสาวะสีม่วง โดยยอมรับว่าได้เสพยาเสพติดประเภทยาบ้ามา พร้อมเปิดใจถึงสาเหตุที่ต้องล่ามโซน้องปังปอนด์ เพราะกลัวว่าน้องจะไปก่อความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน จึงต้องใช้วิธีนี้เพื่อความปลอดภัยทั้งของตนเองและชาวบ้าน ไม่ได้ทำลงไปเพราะความโกรธหรือเกลียดลูก ก็ต้องขอโทษสังคมที่ตนเองไม่ได้มองถึงผลกระทบต่อไปก็จะไม่ทำเช่นนี้อีก
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี จะต้องขอรับตัวน้องไปอยู่ในความดูแล ของบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดชลบุรี เพื่อทำการประเมินฟื้นฟู และเข้าสู่กระบวนการรักษา
ส่วนตัวพ่อนั้น จะต้องถูกส่งตัวไปเข้าสู่กระบวนการบำบัดยาเสพติด ซึ่งหากภายหลัง ตัวลูกนั้นรักษาจนมีอาการดีขึ้น ก็สามารถยื่นความประสงค์ รับตัวลูก มาอยู่ในความดูแลของตนเองได้ แต่จะต้องไม่เกิดเหตุการณ์เช่นเดิมขึ้นอีก