หนักไม่แพ้เชียงราย ฝนถล่มแม่สอด 3 วัน 3 คืน แม่น้ำเมยล้นท่วมบ้านเต็มๆ มิดรถทั้งคัน เคราะห์ซ้ำดินภูเขาสไสด์ตัวปิดทับถนนสายแม่สอด-ตาก
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ก.ย.67 หลังเกิดฝนตกหนักแบบไม่มีหยุดแบบไม่เห็นแสงดวงตะวันนาน 3 วัน 3 คืน ทั่วพื้นที่ 5 อำเภอแนวชายแดน จ.ตาก จนเกิดน้ำป่าไหลหลากลงสู่แม่น้ำเมย ส่งผลทำให้แม่น้ำเมยล้นตลิ่งไม่ต่ำกว่า 3 เมตรและทำให้เกิดน้ำท่วมแนวชายแดน อ.พบพระ และอ.แม่สอด จ.ตาก
ล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา เกิดพายุฝนตกมาอย่างหนัก ยิ่งทำให้สถานการณ์น้ำท่วมเพิ่มความเลวร้ายลงไปอีก โดยที่หมู่บ้านห้วยแล้ง หมู่ที่ 10 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ ซึ่งเป็นหมู่บ้านอยู่พื้นที่ต้นแม่น้ำเมย ถูกน้ำท่วม โดยมีระดับน้ำสูง 1 เมตร บ้านเรือนและวัดริมตลิ่งแม่น้ำเมยถูกน้ำท่วมท่วมจมมิด เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอพบพระ ต้องส่งกำลังไปช่วยชาวบ้านขนย้ายสิ่งของ
น้ำป่ายังกัดเซาะแนวถนนสายหลักระหว่างหมู่บ้านห้วยแล้งและหมู่บ้านเงาไผ่ หมู่ที่ 10 ต.ช่องแคบ อ.พบพระ ซึ่งเป็นถนนเชื่อมต่อระหว่างสองหมู่บ้านหวิดขาดรถทุกชนิด ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ เจ้าหน้าที่ต้องปิดการจราจร เพื่อป้องกันอันตรายหลังยังมีฝนตกอย่างมาอย่างหนัก
ส่วนที่แนวชายแดน อ.แม่สอด ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำเมยต่อจาก อ.พบพระ หลังจากที่ช่วงเช้ามวลน้ำเมยล้นตลิ่งไม่ต่ำกว่า 3 เมตร จนน้ำไหลทะลักเข้าท่วมหมู่บ้านริมเมย หมู่ที่ 2 และหมู่บ้านท่าอาจ หมู่ที่ 3 และอีก 2 หมู่บ้านในพื้นที่เขต ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด โดยเฉพาะที่ตลาดริมเมยและชุมชนบ้านริมเมย ซึ่งเป็นพื้นที่ต่ำแม่น้ำเมยท่วมตลาดริมเมยเกือบถึงหลังคาร้านค้า รถยนต์บางคันเคลื่อนย้ายหนีน้ำไม่ทันจมน้ำมิดทั้งคันรถเสียหายไปหลายคัน
ส่วนชาวบ้านอีกหลายคนต้องหนีน้ำขึ้นไปบนชั้น 2 ของตัวบ้าน ต่างร้องขอความช่วยเหลือผ่านช่องทางต่างๆ หลังฝนไม่หยุดตกและระดับน้ำที่ท่วมสูงมากกว่า 2 เมตร และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ยิ่งทำให้สถานการณ์วิกฤตยิ่งขึ้นในช่วงบ่าย กำลังพลทหารหน่วยเฉพาะกิจราชมนู พร้อมกองร้อยอาสารักษาดินแดนอำเภอแม่สอดที่ 3 ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดและหน่วยกู้ภัยแม่สอด ต้องตัดสินใจว่ายน้ำ เพื่อนำเชือกขนาดใหญ่ไปมัดระหว่างสองฝั่งถนนและเสียสละเสื้อชูชีพให้ชาวบ้านที่ติดค้างบนชั้น 2 ของตัวบ้านสวมใส่ พร้อมเร่งช่วยเหลือลำเลียงผู้ประสบภัยทุกคนช่วยเหลือลุยฝ่ากระแสแม่น้ำเมยที่ไหลแรง
ขณะที่ถนนสายแม่สอด-ตาก ฝนที่ตกหนักส่งผลทำให้เกิดดินภูเขาอิ่มตัวอุ้มน้ำฝนไม่ไหว เกิดการทรุดตัวและสไลด์ตัวไหลลงปิดทับเส้นทางถนนสายแม่สอด-ตาก ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 27 ฝั่งขาออกจากตัว อ.แม่สอด ไปตัวเมืองจังหวัดตาก โดยดินภูเขาสไลด์ตัวกว้างมากกว่า 50 เมตร จากยอดภูเขาสูงชันไหลทับบนถนนจุดดังกล่าว ส่งผลถนนเต็มไปด้วยทั้งโคลนและดินแดงและแผ่นคอนกรีตไหลเต็มถนน ทำให้รถทุกชนิดไม่สามารถใช้สัญจรได้
หลังเกิดเหตุแขวงทางหลวงตากที่ 2 อ.แม่สอด ต้องรีบนำรถเครื่องจักรกลหนักจำนวน 2 คัน ไปตักกองดินโคลนภูเขาที่ปิดทับบนเส้นทางจุดดังกล่าวออก แต่ก็ประสบปัญหามีดินไหลลงมาสมทบจากยอดภูเขาอย่างต่อเนื่อง จนเกิดความไม่ปลอดภัยต่อการทำงาน เจ้าหน้าที่จึงปิดป้ายงดใช้เส้นทางบริเวณจุดเกิดเหตุเป็นการชั่วคราว พร้อมเปิดใช้เส้นทางสวนเลนฉุกเฉิน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของคนใช้ถนนสายแม่สอด-ตาก พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่เฝ้าบริเวณจุดเกิดเหตุตลอดเวลา
ล่าสุดนายสมชัย กิจเจริญรุ่งโรจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก พร้อมด้วยนายสัญญา เพชรเศษ นายอำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เดินทางมาช่วยเหลือชาวบ้านด้วยตนเอง พร้อมตั้งศูนย์บัญชาการภัยพิบัติฉุกเฉินที่บริเวณหน้าด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 1 พร้อมเร่งนำเรือส่งอาหารและน้ำดื่มสะอาดไปยังทุกพื้นที่ซึ่งประสบภัยน้ำท่วมชายแดนอำเภอแม่สอดอย่างเร่งด่วน ซึ่งเป็นน้ำท่วมแนวชายแดนแม่สอดหนักสุดในรอบ10 ปี พร้อมจัดกำลังทุกภาคส่วนราชการและเรือยนต์ขับออกตรวจและช่วยเหลือประชาชนและเฝ้าติดตามสถานการณ์ตลอด 24 นี้อย่างใกล้ชิด
