แก๊งโจรต่างชาติ ลวงนักท่องเที่ยงชาวยูเครน มาห้องพัก จ.ภูเก็ต ก่อนรุมทำร้าย มัดมือ-มัดเท้า ขู่หักนิ้ว ปล้นทรัพย์ได้เงิน 8,560,796.48 บาท
วันที่ 10 พ.ย. 2567 ร.ต.ท.สุรสิทธิ์ หวานดี รอง สว.(สอบสวน) สภ.กมลา จ.ภูเก็ต ได้รับแจ้งจาก นายเวียเชสลาฟ ไลโบฟ อายุ 23 ปี สัญชาติยูเครน ว่า เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 67 เวลาประมาณ 22.45 น. นายอัลเฟรด เชอร์นีชุก อายุ 18 ปี สัญชาติยูเครน ซึ่งเป็นเพื่อนชักชวนให้มาหาที่ห้อง
เมื่อเดินทางมาถึงหน้าประตูทางเข้าที่พักดังกล่าว นายอาร์มาน กริกอริยัน อายุ 21ปี สัญชาติอาร์มาเนีย ลงมารับพาไปที่ห้องที่เกิดเหตุ จากนั้นนั่งคุยกันบริเวณระเบียงของห้อง ต่อมาตนได้ปวดปัสสาวะจึงจะไปเข้าห้องน้ำ แต่เมื่อเปิดประตูห้องน้ำปรากฏว่ามีผู้ชาย 2 คนอยู่ภายในห้องน้ำโดยใส่ผ้าคลุมสีดำปกปิดใบหน้าทั้งสอง โดยคนหนึ่งใส่กางเกงขายาวสีดำและใส่เสื้อแขนยาวสีดำ
ส่วนอีกคนหนึ่งผู้เสียหายจำได้เพียงว่าเสื้อแขนยาวและกางเกงขายาว จากนั้นชายทั้ง 2 คน เข้ามาทำร้ายล็อกคอและช่วยกันมัดมือ มัดเท้าของผู้เสียหาย ด้วยเชือกและเคเบิ้ลไทร์ จากนั้น นายอาร์มาน ข่มขู่พร้อมทั้งบังคับให้ผู้เสียหายโอนเงินสกุลดิจิตอล (USDT) จำนวน 500,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( USDT) หากไม่โอนจะหักนิ้วโดยใน
ขณะนั้น นายอาร์มาน ถือค้อนอยู่ และคนร้ายที่ปิดบังหน้ายืนถือมืดยาวหัวตัดอยู่ใกล้กับผู้เสียหาย แต่ตนได้ต่อรองจน นายอาร์มานได้ลดจำนวนลงเหลือ 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ USDT ตนเห็นว่ามีอาการโกรธและอาจทำร้ายจึงยินยอมที่จะโอนเงินสกุลดิจิตอล(USDT)จำนวน 250,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือเป็นเงินไทย 8,560,796.48บาทไทย
เมื่อเห็นว่าเงินได้เข้าบัญชีแล้ว จึงมัดตนไว้กับเตียงนอนและได้ข่มขู่ว่าห้ามบอกเรื่องที่เกิดขึ้นกับใครและอย่าแจ้งความร้องทุกข์ จากนั้นจึงได้เก็บของสัมภาระภายในห้อง และหลบหนีออกจากห้อง เมื่อตนเห็นคนร้ายออกจากห้องแล้ว จึงพยามยามแกะเชือกที่รัดออก และออกมาจากห้องลงมาที่ชั้นหนึ่งบริเวณหน้าโต๊ะต้อนรับแขก จากนั้นจึงขอถ่ายรูปหนังสือเดินทางของผู้เช่า จึงทราบว่ามีผู้เช่า 2 คน นายอาร์มาน และ นายอัลเฟรด
จากนั้นตนบอกกับพนักงานว่าอย่าเข้าไปเก็บของในห้องดังกล่าว เพื่อเป็นพยานหลักฐาน แล้วจึงได้ขับรถจักรยานยนต์ไปยังสนามบินภูเก็ตเพื่อหาคนร้ายทั้งสาม แต่ก็หาไม่พบแต่อย่างใด จึงได้กลับไปที่บ้านพักในพื้นที่ราไวย์
จากนั้นจึงคิดไตร่ตรองเนื่องจากลัวว่าจะเกิดอันตรายแก่ตน แต่สุดท้ายแล้วจึงตัดสินใจเดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.กมลา เพื่อดำเนินคดีกับคนร้ายตามกฎหมายต่อไป