3พี่น้อง ลูกผู้ใหญ่บ้านกร่าง รุมต่อยคนสลบในงานกฐิน พบเพิ่งพ้นคุกยิงผู้ใหญ่บ้านอีกจังหวัดตาย โดย1ในผู้ก่อเหตุเป็นผู้ช่วย ผญบ. วัดแจ้งความเรียก 5 แสน
วันที่ 11 พ.ย. 2567 นายธนวัฒน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 49 ปี ชาว อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ร้องเรียนกรณีน้องชายชื่อ นายนิกร อายุ 38 ปี เป็นเจ้าของบริษัทผู้รับงานเกี่ยวกับไฟฟ้า ไปเที่ยวงานฉลองกฐิน ที่วัดตรอกสะเดา แล้วถูกทำร้ายร่างกาย เมื่อวันที่ 2 พ.ย. ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ในในโรงพยาบาล เนื่องจากกระทบกระเทือนทางระบบประสาท
นายธนวัฒน์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุภายในงานมีรำวงชาวบ้านคณะเพชรดอนคา เพื่อฉลองต้อนรับเจ้าภาพกฐิน โดยมีชาวบ้านมาร่วมเต้นรำเป็นจำนวนมาก ระหว่างที่เต้นบนเวที มี นายหนึ่ง ทราบว่าเป็นลูกชายผู้ใหญ่บ้านหมู่ 8 ซึ่งเป็นหมู่บ้านใกล้เคียง ขึ้นมาบนเวทีและได้มาพูดคุยกับ นายนิกร ที่เมาและเต้นอยู่บนเวที
จากนั้น นายนิกร ลงจากเวที นายหนึ่ง เดินตามมาชกต่อยและใช้ขวดเหล้า ตีไปที่ศีรษะจนล้มลง โดยมีนายเอ็มและนายแรก ที่เป็นน้องชายผู้ก่อเหตุ วิ่งเข้ามารุมทำร้ายจนสลบ จากนั้นเจ้าหน้าที่ อปพร. เข้าไปห้าม และนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาลด่านช้าง โดยมีชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เห็นเลือดจนเป็นลมบนเวที ชาวบ้านต้องรีบช่วยกันปฐมพยาบาล
ส่วนเจ้าหน้าที่ อปพร. คุมตัวผู้ก่อเหตุไว้ได้ ก่อนจะปล่อยตัวกลับบ้าน เนื่องจากผู้ก่อเหตุเคยยิงผู้ใหญ่บ้าน ที่อำเภอด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี เสียชีวิตมาแล้ว 1 ราย และเพิ่งออกมาจากเรือนจำ ประกอบกับผู้ก่อเหตุเป็นลูกผู้ใหญ่บ้าน จนไม่มีใครเข้าไปยุ่งเกี่ยว ทั้งนี้ตนพร้อมภรรยาได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.เลาขวัญ เพื่อดำเนินคดีแล้ว
ด้าน นายเสนาะ อู่อรุณ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่5 และเป็นไวยาวัจรกรวัดตรอกสะเดา เปิดเผยว่า ก่อนมีงานตนและผู้ใหญ่บ้าน นำป้ายมาติดที่ข้างเวทีมีข้อความว่า เรียนท่านนักเลง อันธพาลที่รักทุกท่าน ท่านใดที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทในงาน ท่านจะต้องชดใช้ค่าเสียหาจ่ายค่ามหรสพในงานทั้งหมด 500,000บาท โดยไม่มีค่ายกเว้นใด ๆ ทั้งสิ้น อีกทั้งต้องดำเนินคดีตามเพ่งและอาญา ท่านไม่มีเงินจ่ายอย่าซ่า จากคณะกรรมการวัดตรอกสะเดา และผู้จัดงานทุกท่าน
ในช่วงเกิดเหตุนั้นตนยืนอยู่บนเวที และเห็นนายนิกร นั้นเต้นรำอยู่บนเวที และก็อยู่ในอาการเมา โดยชาวบ้านนั้นทราบดีว่า นายนิกร เป็นคนในหมู่บ้าน ไม่เคยมีเรื่องกับใคร ส่วน นายหนึ่ง นั้นเป็นลูกผู้ใหญ่บ้านหมู่8 พร้อมกับพวกเข้ามาเที่ยวภายในงาน และได้ขึ้นไปบนเวที และเดินไปคุยกับ นายนิกร กลางเวที ตนก็ไม่ทราบเพราะเสียงมันดัง
หลังจากนั้น นายนิกร ลงไปจากเวที โดยมี นายหนึ่ง เดินตามไปทำร้ายร่างกาย ตนก็โดดลงไปห้ามพวก ก่อนนำตัวคนเจ็บส่งโรงพยาบาล หลังจากก่อเหตุ นายหนึ่ง เข้าไปแจ้งความว่า นายนิกร ถีบตกจากเวที ซึ่งตนนั่งมองตลอดหน้าเวที ขอปฏิเสธว่าไม่มีใครตกจากเวที
ซึ่งในด้านมีอิทธิพลนั้นไม่มี แต่อาศัยว่าแม่เป็นผู้ใหญ่บ้าน และนายแรกน้องชายคนที่3 เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านของผู้เป็นแม่ ซึ่งก่อเหตุเป็นประจำ และก่อนหน้านั้นก็ไปก่อเหตุยิงผู้ใหญ่บ้านตายที่ อ.ด่านช้าง และก็ติดคุกเพิ่งออกมา
ในส่วนของวัดนั้นตนในฐานะเป็นไวยาวัจรกรของวัด และทางผู้ใหญ่บ้านหมู่5 พร้อมกับท่านเจ้าอาวาสวัด นำป้ายไปติดไว้ และมีเรื่องเกิดขึ้น ผู้ที่ก่อเหตุต้องรับผิดชอบ ตนจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด