หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ดักซุ่มจับยาบ้าล็อตใหญ่ 8 ล้านเม็ด มูลค่ากว่า 480,000,000 บาท ขนใส่เรือข้ามโขงขึ้นฝั่งมุกดาหาร
วันที่ 9 ธ.ค.2567 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 นายรณรงค์ เทพรักษ์ รอง ผวจ.มุกดาหาร พล.ต.สุคนธรัตน์ ชาวพงษ์ ผบ.กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี พล.ร.ต.ณรงค์ เอมดี ผบ.หน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง น.อ.แมนรัตน์ บุญสวัสดิ์ ผบ.นรข.เขตนครพนม
น.ท.เตชธร ฉิมพาลี หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร ร่วมแถลงตรวจยึด ยาบ้า 20 กระสอบ รวม 8,000,000 เม็ด มูลค่ากว่า 480,000,000 บาท โดยตรวจยึดได้ ริมฝั่งแม่น้ำโขง อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร
การจับกุมยาบ้าครั้งใหญ่ล็อตนี้ สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการแจ้งจากสายลับว่า จะมีการลักลอบขนยาเสพติดข้ามแดนเข้ามาในพื้นที่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร จึงได้ติดตามและหาข่าวความเคลื่อนไหวของกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติด พร้อมจัดชุดกำลังเฝ้าซุ่มตรวจอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
จนกระทั่งวันที่ 8 ธ.ค. เวลาประมาณ 21.45 น. ชุดซุ่มตรวจริมแม่น้ำโขง พื้นที่ หมู่ 4 บ้านหว้านใหญ่ ต.หว้านใหญ่ อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร ตรวจพบเรือยาวติดเครื่องยนต์วิ่งมาจากฝั่ง สปป.ลาว เข้ามาจอดห่างจากชุดซุ่มเฝ้าตรวจประมาณ 150 เมตร มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 4 – 5 คน ลำเลียงถุงกระสอบขึ้นฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจสอบ แต่กลุ่มชายฉกรรจ์แตกฮืออาศัยความมืดและความชำนาญพื้นที่พากันหลบหนีไปได้
จากนั้นเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบกระสอบสีขาววางอยู่บนถนนริมฝั่งแม่น้ำโขง 14 กระสอบ และอยู่บนเรืออีก 6 กระสอบ รวมทั้งหมด 20 กระสอบ พบเป็นยาเสพติด
ให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) รวมประมาณ 8,000,000 เม็ด จึงยึดของกลางทั้งหมดไว้ พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมทำบันทึกตรวจยึด ก่อนนำของกลางทั้งหมดไปเก็บรักษาไว้ที่สถานีเรือมุกดาหาร เพื่อตรวจสอบโดยละเอียด แล้วนำส่งตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
พล.ท.บุญสิน ระบุ ต้องขอบคุณ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี/ส่วนสกัดกั้นฯ ตอนบน หน่วยเรือรักษาความสงบตามลำน้ำโขง โดยเฉพาะสถานีเรือมุกดาหาร หน่วยเรือรักษาความสงบตามลำน้ำโขง เขตนครพนม และทุกภาคส่วนที่ได้มีการบูรณาการกำลัง ร่วมกันสกัดกั้น ป้องกันและปราบปราม การลักลอบนำเข้ายาเสพติดตามแนวชายแดน จนเกิดผลสัมฤทธิ์สามารถจับกุมตรวจยึดในกรณีสำคัญหลายครั้ง และครั้งนี้ก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จ อยากให้ประชาชนช่วยกันแจ้งข่าวสาร เกี่ยวกับขบวนการลักลอบค้ายาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมายในพื้นที่ เพื่อให้เกิดความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ของรัฐต่อไป
