กองปราบ สับ 100 เมตร ไล่จับ สาวต้มตุ๋น หมายจับติดตัว 12 หมาย วิ่งหนีเข้าป่าละเมาะ ก่อนสุดท้ายจนมุม สอบเข้มยังปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
วันที่ 12 ธ.ค.2567 พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป.
พ.ต.ท.ภาณุมาศ แสงส่ง รอง ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐดนัย สีแข่ไตร สว.กก.3 บก.ป. ร่วมจับกุม น.ส.จิรัชยา (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น ที่ 520/2566 ลง
27 ธ.ค.66 ข้อหา “ร่วมกันยักยอกทรัพย์ และร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินโดยเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้” และหมายจับของศาลจังหวัดอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นคดียักยอกทรัพย์ และฉ้อโกง 11 หมาย ได้บริเวณป่าละเมาะหลังโรงเรียนแห่งหนึ่ง ในต.เมยวดี อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด
ทั้งนี้ทราบว่าเมื่อเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเข้าร้องขอให้ตำรวกองปราบฯช่วยติดตามจับกุม น.ส.จิรัชยา ผู้ต้องหา ซึ่งมีหมายจับคดียักยอก, ปลอมเอกสาร มีหมายติดตัวมากกว่า 10 หมาย แต่ยังไม่สามารถติดตามตัวได้
ทราบด้วยว่าเมื่อปี 2566 น.ส.จิรัชยา รับจ้างกลุ่มนายหน้าหลอกรับจำนำรถสิบล้อ ให้นำเงิน 3 แสนบาทไปส่งให้ผู้เสียหายที่นำรถมาจำนำ พร้อมรับกุญแจรถที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งในจ.ขอนแก่น ได้ค่าจ้าง 4,000 บาท หลังจากนั้นอีกหลายเดือนต่อมา ผู้เสียหายมาติดต่อขอไถ่รถคืน ผู้ต้องหาไม่สามารถนำรถมาคืนเจ้าของได้ จึงถูกแจ้งความดำเนินคดี
จากการตรวจสอบประวัติ น.ส.จิรัชยา มีหมายจับติดตัวถึง 12 หมาย ล้วนเป็นคดียักยอก ปลอมเอกสาร ซ้ำไปซ้ำมา จนเป็นที่ต้องการตัวของตำรวจ แต่ไม่สามารถตามจับกุมได้ เนื่องจากผู้ต้องหาหลบหนีเปลี่ยนที่อยู่ตลอด ยากต่อการติดตามจับกุม โดยหลบหนีมาแต่ ปี2562 ถึงปัจจุบัน
ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้เบาะแสว่า น.ส.จิรัชยา หลบมาอยู่ในพื้นที่อ.เมยวดี จ.ร้อยเอ็ด จึงเข้าตรวจสอบ เมื่อผู้ต้องหาเห็นกลุ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจก็รีบหนีเข้าไปในป่าละเมาะ พร้อมสับเท้าหนีไปได้เกือบครึ่งกิโลเมตร ก่อนถูกจับกุมตัวได้ในที่สุด
สอบสวน น.ส.จิรัชยา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา จึงนำตัวส่งศาลจังหวัดขอนแก่น ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
