แม่ น้องเอิร์น เผยทั้งน้ำตา หลังรู้ข่าวลูกเสียชีวิต เล่าลางสังหรณ์กดจนโทรศัพท์พังแต่หาไม่เจอ ก่อนทราบข่าวร้าย จี้ ส.ต.ท. พูดความจริง เชื่อลูกไม่กระโดดรถเอง
วันที่ 17 ม.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่สภ.เมืองระนอง ได้ดำเนินคดี กับ ส.ต.ท.กิตติภูมิ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี กรณีเกิดเหตุ น.ส.ธันยธร หรือ เอิร์น (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี กระโดดออกจากรถกระบะ จนถึงแก่ความตาย
ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.เมืองระนอง ได้รวบรวมพยานหลักฐานพบว่ามีหลักฐานเพิ่มเติมในคดี เชื่อได้ว่า ส.ต.ท.กิตติภูมิ กระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และข้อหาเสพยาเสพติด ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นางเอื้องพร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 62 ปี แม่ของ น.ส.ธันยธร ผู้ตาย พร้อมด้วย น.ส.วิชุนัน (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี พี่สาว ได้เดินทางจาก จ.ระยอง ซึ่งครอบครัวของผู้ตายไปทำงานอยู่ มาที่ สภ.เมืองระนอง เมื่อวันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อมาทำเรื่องการเสียชีวิตของลูกสาวและให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
โดยมี พ.ต.อ.ธวัชชัย ซุ้นเจริญ ผกก.สภ.เมืองระนอง ร่วมสอบปากคำด้วย ส่วนศพเนื่องจากญาติเพิ่งมาถึงจะต้องรอเอกสารและจะนำออกจากโรงพยาบาลระนองได้ในวันที่ 18 ม.ค.นี้ และนำไปบำเพ็ญกุศลศพ ที่ศาลา 4 วัดสุวรรณคีรีวิหาร พระอารามหลวง ส่วนค่าใช้จ่ายในการทำศพ พ.ต.อ.ธวัชชัย ร่วมกับเพื่อนตำรวจจะเป็นเจ้าภาพคาดสวด 3 วัน
หลังจากนั้น นางเอื้องพร ให้สัมภาษณ์ไปร้องไห้ไปว่า ตนยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาว ยังไม่เห็นศพลูกเลย วันที่ 17 ม.ค.นี้ถึงจะไปดูได้ ส่วนจะเป็นอุบัติเหตุหรือไม่นั้น ตนก็ยังไม่ชี้ชัด แต่ยืนยันได้ว่าลูกตนรักตัวกลัวตายมาก ๆ รักความสวยงาม จึงเชื่อว่าไม่กล้าที่จะกระโดด
นางเอื้องพร กล่าวว่า ส่วนที่ทั้ง 2 คนคบกันตนก็รู้ เพราะช่วงที่ทั้งคู่คบกันตนมาทำงานลงเรือกับสามีที่ระนอง เหตุการณ์วันนั้นย้อนกลับไป 2 ปีก่อน ผู้ก่อเหตุมาขอตนว่า “แม่ผมขอคบกับลูกแม่ได้ไหม” ตนบอกไปว่า “ลูกแม่ยังเด็กอยู่ เกเรด้วย ลูกรับได้ไหม ถ้ารับไม่ได้ก็ไม่ต้องมาคบกับลูกแม่ ลูกเป็นถึงตำรวจ” ผู้ก่อเหตุบอกว่า “ไม่เป็นไรหรอก ผมรับได้”
นางเอื้องพร กล่าวต่อว่า ตนก็ตัดสินใจยกให้ เรื่องสินสอดก็ไม่เอา ขออย่างเดียวดูแลลูกสาวตนให้ดี หลังจากนั้นู้ก่อเหตุก็พาลูกสาวไปอยู่แฟลตตำรวจ ตอนที่ตนยังอยู่ระนองก็เทียวไปมาหาสู่ตน ผู้ก่อเหตุก็พาตนไปกินข้าวช่วงแรก ๆ ดีมาก ๆ
นางเอื้องพร กล่าวอีกว่า พักหลังเริ่มนิสัยเปลี่ยน แล้วลูกสาวโทรมาบอกว่า “แม่เขาตีหนู” ตนก็ถามไป เขาตีลูกทำไม แม่เลี้ยงหนูมายังไม่เคยตีหนูเลย หนูทำไมไม่หนี” ทั้งนี้ ลูกสาวยังบอกอีกว่า “แม่ของพี่โอมไม่ชอบหนู” ตนก็พยายามบอกลูกสาวว่า “เลิกเถอะเราไม่เหมาะสมกับเขา เขาเป็นตำรวจ เป็นข้าราชการ เราเป็นคนธรรมดา”
นางเอื้องพร กล่าวว่า ที่ลูกสาวไม่เลิกก็เพราะผู้ก่อเหตุมาตามง้อตลอดก็คืนดี ลูกสาวได้แต่โทรมาเล่าว่าถูกทำร้ายร่างกายต่าง ๆ นานา ช่วงที่ตนอยู่ จ.ระนอง ด้วยทุกอย่างยังปกติ แต่หลังจากแม่ย้ายไปที่อื่นก็มารู้ว่าลูกสาวถูกทำร้ายร่างกายเลย
- อ่านข่าว : ส.ต.ท. โดนแจ้งเพิ่มข้อหาหนัก เจตนาฆ่าโดยเล็งเห็นผล หลังแฟนสาวโดดรถดับ
- อ่านข่าว : สลด สาวกระโดดลงจากรถ หลังทะเลาะ ส.ต.ท.แฟนหนุ่ม เสียชีวิตคาที่
- อ่านข่าว : เปิดคำให้การ ส.ต.ท. โดนแจ้งข้อหาหนัก หลังแฟนสาวกระโดดรถเสียชีวิต
นางเอื้องพร กล่าวต่อว่า ล่าสุดที่ได้คุยกับลูกสาวราว 2-3 วันก่อนเกิดเหตุ ลูกสาวโอนเงินมาให้ไปซื้อผลไม้กิน 300 บาท ก่อนสั่งว่า “ดูแลสุขภาพให้ดี แม่อย่าเป็นอะไรนะ หนูยังไม่มีอะไรเลย ดูแลกันไปก่อน” คล้าย ๆ สั่งเสีย นอกจากนั้นลูกสาวยังได้โทรศัพท์คุยกับลูกชาย 7 ขวบ จะขึ้น ป.2 ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าแม่ตาย
“ก่อนจะเสียชีวิตเห็นลูกสาวคุยกับลูก 2 ชั่วโมงจนถึง 2 ทุ่ม หลังจากนั้นก็ไม่รู้ว่าไปไหน ช่วงที่คุยก็คุยกัน เรื่องลูกนายโอมก็รับรู้ลูกสาวมีลูกแล้ว แต่ก็อะไรเลยยังส่งของส่งอะไรให้ปกติ”
นางเอื้องพร กล่าวด้วยว่า ส่วนช่วงเกิดเหตุ ตนรู้ช่วงบ่ายของวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมา ตอนนั้นใจแม่อยากจะมาหามาก ๆ ทำอะไรไม่ถูก โทรศัพท์ก็พัง ตกใจมาก ๆ มีโรคประจำตัวเบาหวานด้วยกลัวช็อก เงินก็ไม่มีบอกตำรวจไป เพราะยากจนมาก ๆ
ตำรวจ สภ.เมืองระนองก็โอนเงินให้ 1,000 บาทค่ารถถึงมาได้ โดยมาพร้อมกับลูกสาว ส่วนค่าทำศพ ค่าโรงพยาบาล ค่าห้องพัก ตนและพี่สาวของผู้ตายทางสภ.เมืองระนองก็จ่ายให้ทั้งหมด ถ้าจะเอาศพกลับบ้านตนก็ไม่มีปัญญาจริง ๆ
“อยากจะบอกคนก่อเหตุว่า ก็ขอให้รับโทษในสิ่งที่ทำ อยากให้คุยความจริงกับแม่มากกว่า จะได้อภัยให้ได้ ถ้าพูดความจริง แม่รักโอม ถ้าแม่ไม่รักแม่ไม่ให้ลูกสาวไปหรอก ส่วนลูกสาวยังไม่ได้เจอก็ขอให้ลูกหมดทุกข์หมดโศกไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ หมดเรื่องเลวร้ายทั้งหลายทั้งปวงแล้ว” นางเอื้องพร กล่าว
แม่ของผู้ตาย กล่าวว่า ส่วนคดีก็ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจัดการ ทั้งนี้ ลางสังหรณ์ใจช่วงที่ลูกเสียชีวิต ตอนนั้นตนยังไม่รู้ นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ จู่ ๆ เหมือนเห็นภาพเจ้าหน้าที่เอาผ้ามาคลุมศพลอยมา ตนพยายามจะกดเลื่อนดูแต่ก็กดดูไม่ได้ คิดสภาพตอนนั้นนึกถึงลูกสาว คิดว่าต้องเป็นอะไรแน่ ๆ หมอจะส่งรูปศพลูกสาวให้หรือไม่พยายามกดจนโทรศัพท์พัง สุดท้ายมารู้ในภายหลังลูกสาวเสียชีวิต