ปอศ. ทลายบริษัททิพย์ มีพนักงานคนเดียว ตุ๋นระดมทุน 10 ปี พบเงินหมุนเวียน 1.1 พันล้าน อ้างทำร่วมธุรกิจกับสินค้าแบรนด์ชั้นนำ เหยื่อหลงเชื่ออื้อ

วันที่ 24 ม.ค.2568 พ.ต.อ.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ รรท.ผบก.ปอศ. สั่งการ พ.ต.อ.กริช วรทัต ผกก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ท.จำนาญ จันทร์เทศ รอง ผกก.4 บก.ปอศ. พ.ต.ท.รุตินันท์ สัตยาชัย สว.กก.4 บก.ปอศ.นำกำลังจับกุม น.ส.ดวงกมล (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี นายภิญโญ (สงวนนามสกุล) อายุ 40 ปี น.ส.ขวัญสุดา (สงวนนามสกุล) อายุ 42 ปี และ นายนิธาน (สงวนนามสกุล) อายุ 41 ปี ความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกง,ร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน”

พร้อมของกลางรถยนต์ 1 คัน โทรศัพท์มือถือ 5 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 5 เครื่อง ฮาร์ดดิสก์ 2 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 32 เล่ม และ สมุดเช็ค 8 เล่ม โดยจับกุม น.ส.ดวงกมล ได้บริเวณริมถนนมิตรภาพ อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ส่วนผู้ต้องหาที่เหลือนั้นจับกุมตัวได้ในพื้นที่ กทม. และนนทบุรี

ทั้งนี้ทราบว่าเมื่อเดือน ส.ค.2567 มีกลุ่มผู้เสียหายนับสิบราย ส่วนใหญ่เป็นนักธุรกิจ เข้าแจ้งความบก.ปอศ. หลังถูก น.ส.ดวงกมล ที่รู้จักกันผ่านการอบรมหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง อ้างตัวเองเป็นนักธุรกิจชั้นนำ เป็นเอเจนซี่มีคู่ค้าเป็นบริษัทสินค้าแบรนด์เนมดัง ก่อนหลอกระดมทุนให้ผู้เสียหายร่วมลงทุน อ้างว่าจะได้ผลตอบแทนสูง

โดยใช้กลอุบายทำสัญญากู้ยืมเงินจ่ายผลตอบแทนถึงร้อยละ 5-10 ต่อเดือน หรือร้อยละ 60-120 ต่อปี เพื่อจูงใจให้หลงเชื่อ ช่วงแรกๆ ผู้เสียหายเห็นว่ามีการจ่ายเงินค่าตอบแทนจริง จึงหลงเชื่อลงทุนเพิ่มรวมเป็นเงินกว่า 200 ล้านบาท ภายหลังผู้ต้องหาเริ่มไม่จ่ายเงินค่าตอบแทน สุดท้ายก็รู้ว่าถูกหลอก ก่อนจะพากันเข้าแจ้งความ

ภายหลังเจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสอบจนพบว่า แผนประทุษกรรมของผู้ต้องหาคือ การจ่ายดอกเบี้ย หรือผลตอบแทนในอัตราที่สูงกว่าที่ธุรกิจโดยทั่วไปเพื่อสร้างแรงจูงใจ จากนั้นจะเปิดระดมเงินทุนจากเหยื่อรายใหม่ ก่อนนำมาหมุนเวียนจ่ายผลตอบแทนให้กับนักลงทุนรายเก่า เพื่อทำให้เชื่อว่าทำธุรกิจได้รับผลตอบแทนจริง จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกลุ่มผู้ต้องหา ยังพบว่าภายในระยะเวลาแค่ 10 ปี มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 1,100 ล้านบาท

นอกจากนี้ยังมีการเข้าตรวจค้นบริษัทของกลุ่มผู้ต้องหาตั้งอยู่ย่านวังทองหลาง กรุงเทพฯ
พบ น.ส.เอ (นามสมมติ) เป็นพนักงานของบริษัทเพียงคนเดียว พร้อมยอมรับว่าบริษัทไม่ได้ประกอบธุรกิจใด ๆ ส่วนพนักงานคนอื่นทยอยลาออกไปหมดแล้วเหลือเพียงตนทำหน้าที่เฝ้าบริษัท จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจอนุมัติศาลจับกุมผู้ต้องหาทั้งหมดดังกล่าว

สอบสวน กลุ่มผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ โดยยอมรับว่าชักชวนผู้เสียหายลงทุนจริง แต่ติดขัดปัญหาทางธุรกิจ จึงนำตัวส่งพนักงานสอบสวน กก.4 บก.ปอศ. ดำเนินคดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน