“ปลาทู” ดาราเด็กวอน ไร่อ้อยข้างบ้านหยุดเผา กำเดาไหลไม่หยุด ภูมิแพ้กำเริบใช้ชีวิตลำบาก
จากกรณี เฟซบุ๊ก ชื่อว่า ปลาทู อัญญาริณ ได้โพสต์ข้อความว่า เผาอีกแล้ว ตอนนี้เลยสงสารลูกมากแต่ละวัน แค่ฝุ่นก็หนักแล้ว #เผาอ้อยบ้านบึง และมีคลิปวิดีโอไฟที่กำลังโหมลุกไหม้ป่าอ้อยอย่างรุนแรง มีทั้งควันและเศษซากอ้อยลอยคุ้งในอากาศ และมีรูปเด็กหญิงวัยเจ็ดขวบนั่งใช้กระดาษทิชชูกำลังซับเลือดกำเดาที่ไหลออกจากจมูกจำนวนมาก หลังเรื่องราวดังกล่าวโพสต์ลงบนโซเชียล จนทำเอาชาวเน็ตเข้ามาวิพากษ์วิจารณ์ และแห่แชร์เรื่องราวออกไปเป็นจำนวนมาก
เมื่อวันที่ 12 ก.พ.2568 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังบ้านหลังหนึ่ง หมู่ 1 ต.บ้านบึง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ได้พบกับ น.ส.ปอง อายุ 32 ปี และน้องปลาทู หรือเด็กหญิงอัญญาริณ นักแสดงเด็ก และนางแบบโฆษณาสินค้าชื่อดังหลายรายการ (ล่าสุดแสดงหนังเรื่อง เขาชุมทอง คะนองโจร ของหม่ำ จ๊กมกที่จะฉายในเร็วเร็วนี้ ) โดยน้องปลาทูได้เปิดเผยว่า ช่วงนี้เจ็บจมูกบ่อยและมีเลือดกำเดาไหลบ่อยมาก สาเหตุเพราะสูดควันและฝุ่นเยอะ จึงทำให้โรคภูมิแพ้กำเริบบ่อย
จากการสอบถามน.ส.ปอง แม่ของน้องปลาทู ได้เปิดเผยว่าหมู่บ้านที่ตนอยู่มีการเผาอ้อยที่อยู่รอบรอบเป็นประจำ และทุกวัน ซึ่งคนในหมู่บ้านก็จะแจ้งใน LINE กลุ่ม ว่ามีการจุดเผาอ้อย ส่วนใหญ่จะได้รับผลกระทบกันทั้งหมด แต่ครอบครัวของตนก็จะหนักหน่อย เพราะลูกสาวเป็นโรคภูมิแพ้ และมีโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เมื่อสูดควัน และฝุ่นจำนวนมาก ก็ทำให้โรคกำเริบ ทำให้กำเดาไหล
ช่วงนี้มีการเผาอ้อยทุกวัน ควันก็เข้ามาในบ้านจนแสบคอและจมูก หากมีการสูดดมเป็นจำนวนมากขณะที่ตนติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ และเปิดตลอดยังเอาไม่อยู่ ตอนกลางคืนสูดดมกลิ่นควันจากการเผาอ้อย และตอนเช้าก็จะมีเศษซางอ้อยจากการเผา ที่เป็นสีดำ กระจายเต็มทั่วหน้าบ้าน ตนต้องตื่นเช้ามาฉีดน้ำล้างออก และกวาดเป็นประจำ
ซึ่งได้รับผลกระทบมาแบบนี้นานแล้ว ตนก็อยากฝากถึงผู้ประกอบการไร่อ้อยหากเป็นไปได้ อยากขอความร่วมมือเข้าใจว่าไร่อ้อยมาก่อนหมู่บ้าน ซึ่งหมู่บ้านมาสร้างทีหลังแต่ในเมื่อมีหมู่บ้านขึ้นมาแล้ว ก็อยากให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เพื่อให้อยู่ร่วมกันได้ เช่นใช้การตัดสดจะดีกว่าการเผาเพราะไม่สร้างมลพิษและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่อยู่ในชุมชนอีกด้วย จะได้พึ่งพาอาศัยกันอยู่ร่วมกันได้ด้วยดี
ซึ่งลูกของตนว่างจากงานเรียนก็รับงานถ่ายโฆษณา และแสดงหนังและภาพยนตร์หากปล่อยมากก็มีผลกระทบต่องานก็จะมีการขาดรายได้ที่น้องรับงาน เมื่อก่อนจะเคยกินแต่ยา ระยะหลังมาต้องใช้เครื่องพ่นแล้ว เพราะอาการกำเริบหนัก
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังไร่อ้อยที่อยู่ข้างหมู่บ้าน พบเจ้าหน้าที่ดับเพลิง มีทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่ระดมกำลังเข้ามาฉีดน้ำดับไฟที่กำลังโหมลุกไหม้ภายในไร่อ้อยที่อยู่ข้างหมู่บ้าน อย่างรุนแรงพื้นที่กว่า 50 ไร่โดยประมาณ จากการสอบถามชาวบ้านที่ยืนอยู่บนบ้านได้เปิดเผยว่า ได้รับผลกระทบเป็นประจำทุกวัน และเดือดร้อนมาก เนื่องจากมีการเผาอ้อยอยู่รอบๆ ทุกวัน มีทั้งควันที่เข้ามาในบ้านทำให้แสบคอ และจมูกจากการสูดดมควัน พอเช้ามาก็ต้องมาเจอเศษซากอ้อยที่ถูกไฟไหม้แล้วลอยมาติดเสื้อผ้าและของใช้ต่างๆ
อยากฝากถึงผู้ประกอบการไร่อ้อย อยากให้มีการแก้ไขพฤติกรรมในการเก็บเกี่ยว จากการเผาให้เป็นตัดสดจะดีกว่า อีกทั้งอยากฝากถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง อยากให้ไปประชาสัมพันธ์ หรือเอาผิดกับเจ้าของไร่อ้อย หากมีการเผาเพราะทางจังหวัดชลบุรีมีการประกาศเอาจริงแล้ว หากมีการเผาต้องมีการจับติดคุก อยากให้กฎหมายไทยเอาจริงจัง และเข้มแข็งกว่านี้ เพื่อจะได้เป็นตัวอย่างและเป็นบทเรียน ให้คนเห็นจะได้ไม่กล้าทำแบบนี้อีก
