จากคดีสะเทือนขวัญ น้องแอปเปิ้ล หรือ น.ส.อรวี สำเภาทอง อายุ 18 ปี นักเรียนสาวชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย ของโรงเรียนดังประจำจังหวัดระนอง ถูกคนรร้าย แทงด้วยอาวุธมีด 17 แผล เสียชีวิตคาที่ ขณะเดินเท้าเข้าซอยเปลี่ยว ในซอยสำนักสงฆ์สะพานปลา ข้างโรงเจ ม.5 ต.บางริ้น อ.เมืองระนอง จ.ระนอง เมื่อค่ำคืนวันที่ 28 ก.ย.58 เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนจนสามารถจับผู้ต้องหา ซึ่งเป็นลูกเรือประมงชาวเมียนมา 4 ราย คือนายโม่ซินอ่าว อายุ 22 ปี นายจอโซวิน อายุ 21 ปี นายเมาเซ้น หรือไซกะเดา อายุ 23 ปี และนายซอเล หรือเวแล้ อายุ 28 ปี ที่ร่วมกัน ฆ่าน้องแอปเปิ้ล และให้การรับสารภาพในชั้นจับกุม พร้อมควบคุมตัวมาทำแผนที่เกิดเหตุ ต่อมาผู้ต้องหาชาวเมียนมาทั้งหมด พลิกคำให้การปฎิเสธคดีร่วมกันฆ่า จนสืบปากคำทั้งพยาน, เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม และจำเลยตลอด 2 ปี 6 เดือนที่ผ่านมา

ความคืบหน้า เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ศาลจังหวัดระนองเบิกตัวผู้ต้องหาชาวเมียนมา ทั้ง 4 ราย เดินทางมาที่ศาลจังหวัดระนองและศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง เพื่อฟังคำพิพากษาครั้งแรก โดยมีครอบครัวของน้องแอปเปิ้ล ทั้ง นางมาริษา สำเภาทอง อายุ 47 ปี มารดาของน้องแอปเปิ้ล และน.ส.อรพรรณ สำเภาทอง พี่สาวคนโต วัย 24 ปี ที่เดินทางมาฟังคำตัดสินพร้อม กับครอบครัวทางผู้ต้องหาชาวเมียนมา ทั้ง 4 ครอบครัว มาให้กำลังใจลูกชาย โดยมีทนายอาสาสิทธิมนุษย์ชนว่าความสู้คดีให้

โดยศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดระนอง อ่านคำพิพากษาตัดสิน ก่อนตัดสินจำคุก 4 ปี นายโม่ซินอ่าว อายุ 19 ปี ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง เป็นเงิน 810,000 บาท นายจอโซวิน อายุ 18 ปี ตัดสินจำคุก 2 ปี ในข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่งเป็นเงิน 270,000 บาท

ส่วนศาลจังหวัดระนองพิจารณาและอ่านคำพิพากษาตัดสิน ส่วนผู้ต้องหา อีก 2 คน โดย นายเมาเซ้น หรือไซกะเดา อายุ 20 ปี ตัดสินจำคุก 8 ปี ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และนายซอเล หรือเวแล้ อายุ 25 ปี ตัดสินจำคุก 6 ปี ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย พร้อมร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายทางแพ่ง เป็นเงินรวม 570,000 บาท

โดยทางทนายสิทธิมนุษย์ชนของทางจำเลย ชาวเมียนมา ทั้ง 4 คน ระบุว่าลูกความผู้ต้องหาทั้ง 4 คน แบ่งขึ้นศาลเยาวชนและครอบครัว จำนวน 2 คน และขึ้นศาลจังหวัดระนองอีก 2 คน ทั้ง 2 ศาล ลูกความชาวเมียนมา ถูกกล่าวหา ในข้อหาร่วมกันฆ่า ทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสาร ชุดเดียวกันที่ให้การเหมือนกันทั้ง 2 ศาล ศาลเชื่อตามประจักษ์พยานในการสืบ ที่ให้การสอดรับกัน โดยไม่มีหลักฐานทางนิติเวชมาพิสูจน์ เตรียมต่อสู้ ยื่นศาลอุธรณ์ต่อไป

ต่อมาเวลา 14.00 น. น.ส.อรพรรณ สำเภาทอง พี่สาวน้องแอปเปิ้ลผู้ตาย เปิดเผยหลังการพิจารณาตัดสินคดีว่า รู้สึกพอใจกับการตัดสินพิจารณาของศาล เพื่อจะได้ทราบว่าใครคือผู้กระทำความผิดที่แท้จริง และหลังจากนี้คงจะไปทำบุญให้กับน้องสาว ส่วนเรื่องค่าเสียหายทางแพ่งที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้คาดหวังจะได้อะไรจากผู้ต้องหา








Advertisement

นายรัษฎา มนูรัษฎา กรรมการสิทธิมนุษยชนสภาทนายความ ในฐานะทนายความของจำเลย กล่าวว่า เคารพในคำตัดสินของศาล แต่ยังแย้งในหลายประเด็น ทั้งเรื่องของบาดแผลที่ไม่ตรงกับลักษณะมีด รวมถึงมีอีกหลายประเด็น ทั้งเรื่องที่จำเลยบอกว่ารับสารภาพเพราะโดนทำร้ายซึ่งมีร่องรอยที่ลำคอเหมือนกัน หรือประเด็นดีเอ็นเอที่ตรวจแล้วไม่พบ รวมไปถึงการมีพยานคนกลางที่พบเห็นจำเลยคนหนึ่งที่แพในช่วงเวลาที่เกิดเหตุ โดยจะยื่นอุทธรณ์ต่อทั้ง 4 คนอย่างแน่นอน

นางขิ่นโซวิน มารดาของนายจอโซวิน จำเลยในศาลเยาวชนที่ 2 กล่าวว่า ตนเชื่อในความบริสุทธิ์ของลูก และเชื่อมั่นว่าลูกไม่ได้ทำ ซึ่งลูกชายของตนถูกตัดสินจำคุก 2 ปี โดยในขณะนี้ก็ถูกควบคุมตัวครบ 2 ปีแล้ว โดยในวันนี้ดีใจที่จะได้เห็นลูกออกมาสู่โลกภายนอก แต่ถึงอย่างไรก็จะต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์ต่อไป เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน