เอเอฟพีรายงานเมื่อ 5 พ.ค. ว่า พล.อ.มิน อ่อง ไหล่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่า โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตอบโต้กระแสวิตกกังวลถึงสวัสดิภาพของชาวมุสลิมโรฮิงยาที่จะกลับคืนถิ่นฐานในรัฐยะไข่ ทางตะวันตกของประเทศว่าไม่ต้องหวาดกลัวอะไร
ก่อนหน้านี้ สหประชาชาติ (ยูเอ็น) รวมถึงองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ กล่าวเตือนว่าพม่ายังไม่มีความปลอดภัยมากพอที่ชาวโรฮิงยาซึ่งกว่า 700,000 คนหนีตายความรุนแรงไปพักพิงที่ค่ายผู้ลี้ภัยในบังกลาเทศตั้งแต่เดือนส.ค.ปีก่อน จะเดินทางกลับไปใช้ชีวิตตามเดิม
ผบ.สส.พม่ากล่าวกับผู้แทนคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) เมื่อ 30 เม.ย. ย้ำว่าพม่าเป็นประเทศที่ปลอดภัย และชาวมุสลิมโรฮิงยาไม่จำเป็นต้องหวาดวิตกตราบใดที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ซึ่งทางการจัดสรรไว้ให้
แม่ทัพใหญ่พม่าตั้งข้อสงสัยถึงความเท็จจริงของรายงานที่กล่าวว่าผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงยาในบังกลาเทศครหาหาว่าถูกเจ้าหน้าที่ทหารพม่าทำร้ายร่างกาย และข่มขืน ด้วยว่า “ชาวเบงกาลี (ชาวโรฮิงยา) จะไม่มีทางพูดว่าพวกเขาไปถึงที่นั่นอย่างมีความสุขหรอก พวกเขาจะได้รับความเห็นอกเห็นใจและสิทธิพิเศษต่างๆ ก็ต่อเมื่อบอกว่าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก สิ่งที่เราได้ยินคือการพูดเติมแต่งที่เกินจริง”
ทั้งนี้ ช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา รัฐบาลพม่าเปิดเผยว่าครอบครัวชาวมุสลิมโรฮิงยา 5 คนจากบังกลาเทศ ข้ามชายแดนมายังค่ายพักพิงชั่วคราวสำหรับผู้คืนถิ่นในเมืองหล่าโปข่อง ทางตอนเหนือของรัฐยะไข่ แต่นับจากนั้นยังไม่มีความคืบหน้าว่ามีผู้ลี้ภัยคนอื่นๆ กลับคืนถิ่น