เมื่อ 10 พ.ค. เซี่ยงไฮ้อิสต์รายงานเรื่องพิลึกของหนุ่มสาวคู่หนึ่งที่เลิกรากัน แทนที่แยกย้ายทางใครทางมัน กลับทำให้คนในสังคมพากันตะลึงงัน เพราะมีการเรียกค่าเลิกกันเกิน 2 ล้านหยวน หรือ 10 ล้านบาท แถมทิ้งไว้ง่ายๆ เพราะเห็นว่ายังไม่มากพอตามที่เรียกร้อง
เหตุเกิดที่บาร์แห่งหนึ่งในเมืองหังโจว มณฑลเจ้อเจียง ภาคตะวันออกของจีน พนักงานในบาร์มาพบกระเป๋าเดินทางหนักมากวางทิ้งไว้ในร้าน ตอนเช้ามืดวันที่ 7 พ.ค. นึกว่าลูกค้าลืมทิ้งไว้ จึงจะนำไปห้องเก็บของเพื่อรอให้ลูกค้ามาทวงถาม แต่ขณะนำเก็บ เกิดทำกระเป๋าหล่น จนกระเป๋าเปิดออก ทุกคนพากันตะลึง เพราะเห็นธนบัตรใบละ 100 หยวนเป็นปึกๆ อัดแน่นอยู่
จากนั้นผู้จัดการบาร์จึงโทร.ตามตำรวจมายังที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงมาตรวจเก็บหลักฐานนับเงินสดได้ 2 ล้านหยวน หรือราว 10 ล้านบาท เป็นเงินก้อนโตเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด
ระหว่างที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังมึนงงไม่รู้จะจัดการกับเงินก้อนนี้อย่างไร ก็มีเรื่องให้ประหลาดใจอีก เมื่อมีชายหนุ่มวัยช่วงวัย 20 เดินทางมาพร้อมกับหญิงสาวในวัยเดียวกัน พร้อมด้วยพนักงานบาร์อีกคน เพื่อมายืนยันว่า ชายหนุ่มคือเจ้าของกระเป๋าใบนี้
สอบสวนทราบว่า หญิงสาวเรียกร้องเงินค่าเลิกรากับฝ่ายชายถึง 5 ล้านหยวน หรือราว 25 ล้านบาท แต่ฝ่ายชายยอมให้ 2 ล้านหยวน หรือราว 10 ล้าน ก่อนถือเงินสดใส่กระเป๋าเดินทางมาให้ที่บาร์ พอหญิงสาวไม่ตกลง ชายหนุ่มก็บอกว่า มีให้ได้แค่นี้แล้วเดินหนีไปโดยทิ้งกระเป๋าไว้ ส่วนหญิงสาวไม่พอใจทิ้งกระเป๋าบรรจุเงินไว้อย่างนั้นเหมือนกัน
หลังจากออกจากบาร์ หญิงสาวโทร.ไปหาชายหนุ่มคู่พิพาทว่าเธอไม่ได้เอาเงินนั้น และให้ชายหนุ่มกลับไปเอาเอง กระทั่งเมื่อชายหนุ่มกลับไปเอาเงิน จึงรู้ว่าตำรวจนำไปโรงพักแล้วจึงตามมาขอคืนดังกล่าว
ด้านตำรวจฟังเรื่องราวแล้ว แม้เห็นว่าเป็นเรื่องเหลือเชื่อ แต่พยานแวดล้อมยืนยัน จึงได้แต่เตือนชายหนุ่มว่าอย่าได้ทำเป็นเล่นกับเงินมากมายมหาศาลขนาดนี้ แต่ชายหนุ่มกลับเถียงว่า “เงิน 2 ล้านหยวนมากมายอะไรกัน ก็แค่อยากจะใช้เลิกกับแฟนก็เท่านั้น”
รายงานเผยว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นคนรุ่นที่เรียกว่า ฝูเอ่อร์ไต้ พวกเด็กรวยรุ่นที่สอง คือเกิดมาบนกองเงินกองทอง ครอบครัวรวยล้ำเพราะทำงานกับบริษัทไอที ส่วนหญิงสาวไม่มีประวัติว่ามาจากครอบครัวระดับใด เพียงมีบางรายงานระบุว่า เดิมทีเรียกเงินค่าเลิกกันถึ 10 ล้านหยวน หรือราว 50 ล้านบาท
