เอเอฟพีรายงานว่า เมื่อวันที่ 10 พ.ค. นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด สาบานตนกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซียอีกครั้ง และขึ้นแท่นเป็นผู้นำประเทศที่สูงอายุที่สุดในโลกด้วยวัย 92 ปี หลังจากพรรคพรรคแนวร่วมปากาตัน ฮาราปัน เอาชนะการเลือกตั้งมาอย่างเหนือความคาดหมาย ทำให้พรรคแนวร่วมแห่งชาติ พ่ายแพ้เป็นครั้งแรกในรอบ 6 ทศวรรษ
นายมหาเธร์เคยล้างมือในอ่างทองคำในปี 2545 หลังบริหารประเทศมายาวนานถึง 22 ปี การกลับมาครั้งนี้ นายมหาเธร์ต้องการเข้ามาล้มอำนาจของนายนาจิบ ราซัก ศิษย์เก่าของตนเองและทำได้สำเร็จหลังจากรัฐบาลคะแนนนิยมตกต่ำลงเรื่อยๆ
ในพิธีสาบานตนรับตำแหน่งอีกครั้งขลุกขลักเล็กน้อย เนื่องจากสมเด็จพระราชาธิบดีมูฮัมหมัดที่ 5 แห่งรัฐกลันตันทรงให้เข้าเฝ้าในช่วงค่ำ แทนที่จะเป็นช่วงเช้าหรือบ่ายเหมือนครั้งก่อนๆ ซึ่งดร.มหาเธร์ยืนยันว่าความล่าช้าที่เกิดขึ้นมาจากความสับสนเล็กน้อยเกี่ยวกับข้อบังคับตามรัฐธรรมนูญ
ดร.มหาเธร์แต่งชุดมาเลย์และกล่าวคำสาบานต่อสมเด็จพระราชาธิบดี โดยมีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ร่วมเป็นสักขีพยาน จากนั้นจึงออกมาฉลองกับสมาชิกแนวร่วม และผู้สนับสนุนหลายร้อยคนที่ตะโกนเชียร์ และร้องเพลงชาติ หลายคนน้ำตาไหลด้วยความดีใจ
ต่อมาหลังพิธีสาบานตน ผู้สื่อข่าวข่าวสดรายงานการแถลงข่าวครั้งแรกของดร.มหาเธร์ ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนใหม่ จากโรงแรมเชอราตัน เปตาลิงจายา รัฐสลังงอร์ ว่าดร.มหาเธร์กล่าวถึงพิธีการสาบานตนว่าใช้เวลาเกินกว่า 6 ชั่วโมง จากนั้นขอบคุณประชาชนที่สนับสนุน ไม่เคยเห็นการสนับสนุนแนวร่วมปากาตัน ฮาราปันขนาดนี้มาก่อน และไม่น่าเชื่อว่า นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง แนวร่วมโดยแกนนำ 7 คนสามารถโค่นแนวร่วมแห่งชาติลงได้
สำหรับวันศุกร์ที่ 11 พ.ค.นี้ ดร.มหาเธร์กล่าวติดตลกว่าถึงวันศุกร์นี้จะเป็นวันหยุด แต่ตนขอไม่หยุดทำงาน จะมีการพูดคุยหารือระหว่างแกนนำแนวร่วมปากาตัน ฮาราปัน เพื่อจัดตั้งคณะรัฐมนตรีรวมไปถึงการเรื่องนโยบาย เบื้องต้นจะแต่งตั้งให้ ดร.วัน อะซิซาห์ วัน อิสมาอิล ภริยาของนายอันวาร์ เป็นรองนายกรัฐมนตรี
การทำงานของรัฐบาลนี้จะพยายามแก้กฏหมายที่กดขี่ และไม่ยุติธรรม พร้อมกันนีเจะมีการทบทวนคดีความต่างๆ ที่เอาผิดแกนนำทางการเมือง ที่ถูกฟ้องร้องโดยมีเรื่องการเมืองแอบแฝง อีกทั้งยังจะเปลี่ยนแปลงนโยบายการทำงานของหน่วยงานต่างๆ ที่เดิมมีการกล่าวหาว่าดป็นเครื่องมือรัฐบาลอดีตนายกรัฐมนตรีนายนาจิบ
ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนที่ 7 ของมาเลเซีย ดร.มหาเธร์กล่าวว่า ทุกพรรคในแนวร่วมปากาตัน ฮาราปัน ถึงแม้ว่าจะมีอุดมการณ์ทางการเมืองต่างกันแต่ก็จะพยายามทำตามคำพูด หรือนโยบายที่ใช้หาเสียงไว้