เมื่อวันที่ 11 พ.ค. เดลีเมล รายงานว่า นักขุดสมบัติในสุสานโบราณ ค้นพบซากศพโบราณของม้าศึกที่ตายมากว่า 2,000 ปีโดยบังเอิญภายในซากปรักหักพังของเมืองปอมเปอี โดยคนร้ายขุดอุโมงค์เพื่อค้นหาสิ่งมีค่าในชุมชนโรมันที่ตั้งอยู่ชานเมืองของเมืองที่ล่มสลาย

การทำงานของพวกเขากระตุ้นการทำงานของนักอนุรักษ์ขององค์กรยูเนสโก ให้เริ่มขุดค้นเพื่อที่จะหยุดกิจกรรมของนักขุดสมบัติและปกป้องวัตถุโบราณ

อุโมงค์ที่ขุดขึ้นอย่างผิดกฎหมายโดยนักขุดสมบัตินั้นมีทางลึกกว่า 60 เมตร นักวิจัยสร้างเส้นทางขึ้นมาใหม่ต่อจากทางนั้นและค้นพบรูปหล่อด้วยปูน ซากศพของมนุษย์ ล่อ ลา และสัตว์อื่นๆ ที่เป็นเหยื่อของภูเขาไฟระเบิดในค.ศ.79

ซากม้าถูกพบในพื้นที่ที่รู้จักกันในชื่อ ซีวิต้า จูเลียนา ทางตอนเหนือของเมืองโบราณ และภายนอกกำแพงปราการ

มัสซิโม่ โอซานน่า ผู้เชี่ยวชาญด้านเมืองปอมเปอี กล่าวว่าการค้นพบนี้เป็นการค้นพบที่ “พิเศษ” ขณะที่นายกด้านสิ่งแวดล้อม ดาริโอ ฟรานเชสชินี่ กล่าวว่ามัน “ผิดธรรมดา”

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าม้านี้เป็นม้าศึก พวกเขายังค้นพบซากร่างของมนุษย์ อายุระหว่าง 40-55 ปี ที่ตายจากภูเขาไฟระเบิด นอกจากนี้ยังค้นพบ ภาชนะในห้องครัว และบางส่วนของเตียงไม้

ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา มีการขุดพบโครงกระดูกโบราณเช่นกัน เป็นโครงกระดูกของเด็กที่ตายจากการระเบิดของภูเขาไฟวิสุเวียส ซึ่งโครงกระดูกที่ถูกค้นพบนั้นเกือบจะสมบูรณ์แบบ ยกเว้นส่วนขวาของหน้าอก ขากรรไกร และกระดูกท่อนแขน โดยถูกพบในห้องน้ำสาธารณะของเมืองปอมเปอี

ภูเขาไฟวิสุเวียสที่ระเบิดเมื่อ ค.ศ.79 คร่าชีวิตผู้คนไปมากกว่า 16,000 คน ซึ่งโครงกระดูกของผู้เสียชีวิตที่ถูกค้นพบถูกนำออกมาจากพื้นที่ดังกล่าวเพื่อศึกษาวิจัย รวมถึงทดสอบดีเอ็นเอเพื่อระบุเพศ

ศาสตราจารย์โอซานน่ากล่าวว่า “มันเป็นการค้นพบที่พิเศษ ในบริเวณนี้พวกเราคิดว่ามันถูกขุดค้นไปแล้วด้วยครั้งหนึ่งเมื่อศตวรรษที่ 19”

“สิ่งที่เราสามารถบอกได้จากการวิเคราะห์ล่าสุดคือโครงกระดูกของเด็กที่ถูกพบมีอายุประมาณ 7-8 ปี”

ผู้เชี่ยวชาญด้านโบราณคดีของเมืองปอมเปอีจะวิจัยหาข้อมูลจากโครงกระดูกนี้ต่อไป พวกเขาหวังว่าจะสามารถระบุภาวะสุขภาพของผู้อาศัยในเมืองปอมเปอีช่วงคริสต์ศักราชที่ 79 ได้ รวมถึงโรคระบาดในยุคนั้นด้วย

ระหว่างการศึกษาวิจัย นักวิทยาศาสตร์จะวัดโครงกระดูก และประเมินว่ากล้ามเนื้อของโครงกระดูกนี้มีลักษณะอย่างไร ซึ่งจะสามารถระบุลักษณะทางกายภาพได้หลายอย่าง รวมถึงน้ำหนักของเด็ก

อย่างไรก็ตาม การระบุเพศเป็นไปได้ยาก การระบุว่าเป็นชายหรือหญิง ไม่สามารถระบุได้จากโครงกระดูกของเด็ก แต่มันอาจเป็นไปได้จากการวิเคราะห์ดีเอ็นเอ ซึ่งถูกจัดการโดยความร่วมมือของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเฟอเดอริโกที่ 2 เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน