เว็บไซต์หนังสือพิมพ์คอมโซมอลสกายา ปราฟดา ของรัสเซียรายงานวันที่ 18 พ.ค. ว่า ตำรวจลาดตระเวนรัสเซียพบโลมาอ่าว 46 ตัว ตายติดอวนของชาวประมงยูเครนที่เข้ามาทำประมงอย่างผิดกฎหมายนอกชายฝั่งทางตะวันตกของสาธารณรัฐไครเมีย ทางใต้ของประเทศ
สืบเนื่องจากการจับกุมชาวประมงสัญชาติยูเครน เมื่อวันที่ 4 พ.ค. โดยเจ้าหน้าที่ยึดเรือประมง YAMK 0041 ที่จับปลานอกชายฝั่งทางตะวันตกของแหลมตาร์ฮันคุต ในน่านน้ำดินแดนรัสเซีย และจับกุมลูกเรือ 5 นาย ทั้งหมดเป็นพลเมืองยูเครน
เจ้าหน้าที่ยึดอวนที่มีความยาวมากกว่า 9,300 เมตร พบโลมาอ่าว (โลมาทะเลดำ) ตาย 46 ตัว รวมทั้งปลาฟลาวน์เดอร์ตาย 17 ตัว และฉลามตาย 2 ตัว แต่เจ้าหน้าที่สามารถช่วยชีวิตปลาฟลาวน์เดอร์ 161 ปู 4 ตัว และฉลามแอตแลนติก 3 ตัว ได้ ทั้งหมดถูกปล่อยลงสู่ทะเลแล้ว ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่ามูลคาความเสียหายทางทั้งหมดมากกว่า 440,000 รูเบิล (223,000 บาท)
กัปตันเรือประมงสัญชาติยูเครน YAMK 0041 ถูกพิจารณาความอาญาในข้อหาทำประมงอย่างผิดกฎหมาย โดยศาลรัสเซียสั่งฝากขังระหว่างการพิจารณาคดีแล้ว หากถูกตัดสินว่ามีความผิด จะต้องรับโทษสูงสุดถึง 5 ปี
ขณะที่สังคมออนไลน์ต่างมองการจับกุมหนนี้ว่าเป็นการตอบโต้ยูเครนที่จับกุมเรือประมง “นอร์ด” ของพลเมืองไครเมีย เมื่อปลายเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา หลังจับปลา Clupeonella ในน่านน้ำสากลของทะเลอาซอฟ แต่ถูกตำรวจลาดตระเวนชายฝั่งควบคุมเรือเทียบฝั่ง กัปตันเรือต้องรับโทษทางอาญา ส่วนลูกเรือถูกคุมขัง พร้อมถูกยึดเอกสารและไม่อนุญาตข้ามชายแดนกลับบ้าน
อย่างไรก็ตาม ทางการไครเมียย้ำว่า เจ้าหน้าที่ของตนไม่ได้ละเมิดกฎหมาย ไม่เหมือนกับฝั่งของยูเครน
“ความแตกต่างอย่างชัดเจนคือว่า ตำรวจลาดตระเวนของประเทศเราปฏิบัติตามบนหลักของกฎหมายระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ส่วนทางการยูเครนละเมิดกฎหมายอย่างหยาบช้าที่สุด” นายเกรออร์กี มูราดอฟ รองนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐไครเมีย ผู้แทนถาวรของประธานาธิบดีรัสเซีย แถลง
นายมูราดอฟกล่าวด้วยว่า การจับกุมเป็นไปตามกฎหมายอย่างสมบูรณ์ เนื่องจากชาวประมงยูเครนจับปลาฟลาวน์เดอร์ในพื้นที่เศรษฐกิจจำเพาะของรัสเซียโดยไม่มีใบอนุญาต
ด้านนางออลกา โควิตดี สมาชิกวุฒิสภาสาธารณรัฐไครเมีย สมาชิกคณะกรรมธิการด้านกลาโหมและความมั่นคงแห่งสภาสหพันธ์รัฐ (สภาสูง) ของรัสเซีย เชื่อว่า การจับกุมชาวประมงยูเครนในคาบสมุทรไครเมียไม่มีประเด็นอื่นนอกจากการยั่วยุทางการเมือง
ทั้งนี้ โลมาอ่าวอาศัยอยู่ในน่านน้ำชายฝั่งทะเลดำเป็นหลัก และสามารถเห็นได้ในช่วงฤดูอากาศอบอุ่น ลักษณะทางกายภาพโดดเด่นคือหัวสั้นและโครงกระดูกส่วนหน้าทื่อ กินสัตว์น้ำขนาดเล็กเป็น เช่น ปลาแองโชวี่ โดยกินอาหารมากที่สุดวันละ 3-5 ก.ก. สามารถอยู่ใต้น้ำได้ถึง 6 นาที ว่ายน้ำด้วยความเร็วถึง 22 ก.ม./ชม. เคลื่อนไหวกันเป็นกลุ่มเล็กๆ และอายุคาดเฉลี่ยอยู่ที่ราว 7-8 ปี
อย่างไรก็ตาม โลมาอ่าวถูกจัดอยู่ในประเภทสัตว์หายาก ซึ่งห้ามชาวประมงจับ แต่โลมาอ่าวอาจว่ายน้ำเข้ามาติดอวนที่ขึงไว้ระหว่างทำประมง ทำให้ไม่สามารถลอยขึ้นมาหายใจบนผิวน้ำได้ และขาดอากาศหายใจตายในที่สุด เมื่อปี 2559 พบโลมาอ่าวกว่าครึ่งร้อยบนชายฝั่งไครเมียซึ่งตายเพราะน้ำมือของชาวประมง
สหภาพนานาชาติเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติและทรัพยากรธรรมชาติ (IUCN) จัดโลมาอ่าวให้อยู่ในสถานะสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมหายาก ซึ่งอยู่ในสถานการณ์อันตราย