สาวใหญ่หวิดดับ นอนอาบแดดบนแพลมยาง ถูกคลื่นพัดไกลชายฝั่งเป็นสิบโลฯ

เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา เมโทร รายงานว่า ออลกา คัลโด ชาวกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย นักท่องเที่ยวหญิงวัย 55 ปี นอนอาบแดดบน แพยาง และถูกคลื่นพัดออกไปกลางทะเลเป็นเวลา 21 ชั่วโมง ก่อนถูกพบโดยเครื่องบินลาดตระเวนที่ตรวจหาคนอพยพข้ามแดนอย่างผิดกฎหมายในจุดที่ไกลออกไปถึง 11 กิโลเมตรจากแนวชายหาดของเกาะครีต ประเทศกรีซ ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน

คลื่นพัด แพลมยาง ชายหาด

ออลกา คัลโด นักท่องเที่ยววัย 55 ปี

ออลกาต้องได้รับการรักษาปัญหาการทำงานผิดปกติของหัวใจหลังจากเผชิญกับสภาวะยากลำบากมา 21 ชั่วโมง โดยออลกาพักอยู่กับโอเล็ก คัลโด วัย 59 ปี สามีของเธอ และ ยูเลีย คัลโด วัย 28 ปี ลูกสาว ที่รีสอร์ททางตอนเหนือของเกาะ ครอบครัวของออลกาโทรแจ้งกู้ภัยหลังจากเธอไม่ได้กลับมาจากการว่ายน้ำในช่วงบ่าย จนกระทั่ง 21 ชั่วโมงต่อมา เครื่องบินหน่วยลาดตระเวนก็พบเธอลอยอยู่กลางทะเล หลังจากเรือและเจ็ตสกีของหน่วยค้นหาไม่สามารถหาตัวเธอพบ

คลื่นพัด แพลมยาง ชายหาด

รูปจาก frontex

เรือกู้ภัยนำตัวออลก้ากลับที่ชายฝั่งและเร่งนำตัวเธอส่งโรงพยาบาลด้วยอาการหัวใจทำงานผิดปกติ และอาการไฮโปเทอร์เมียหรือสภาวะที่ร่างกายมีอุณหภูมิต่ำเกินไปหลังจากเป็นลมแดด ยูเลียลูกสาวของเธอซึ่งมีอาชีพเป็นโปรดิวเซอร์รายการทีวี ได้โพสต์บนโซเชียลมีเดียว่า “ปาฏิหาริย์ได้เกิดขึ้นแล้ว” เธอกล่าวว่าแม่ของเธอ “ถูกเผาจนไหม้เกรียม” จากแดดในตอนกลางวัน ก่อนที่เครื่องบินลาดตระเวนจะพบเธอ

คลื่นพัด แพลมยาง ชายหาด

แพยาง รูปจาก pixabay

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน