สู้ฝน-ทำการบ้าน ด.ญ. 8 ขวบข้างถนน พ่อป่วย-ครอบครัวไร้ที่ซุกหัวนอน
สู้ฝน-ทำการบ้าน – เดลี่เมล์ รายงานวันที่ 13 ก.ค. ถึงชีวิตของเด็กหญิงวัยเพียง 8 ขวบ ที่ตั้งใจทำการบ้านให้เสร็จ ท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาในช่วงฤดูมรสุมในประเทศฟิลิปปินส์ ภายหลังต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน เพราะพ่อล้มป่วยจนไม่มีแรงทำงานหาเลี้ยงครอบครัว
https://video.dailymail.co.uk/video/mol/2018/07/13/509678977146731103/1024x576_MP4_509678977146731103.mp4
โซเชียลมีเดียเผยแพร่คลิป ด.ญ.อีเลน ดอลโฟ ต่อสู้กับสายฝนเพื่อทำการบ้านให้เสร็จก่อนจะไปโรงเรียน ด้านนอกอพาร์ตเมนต์ ในกรุงมานิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ เมื่อยามเช้าวันที่ 13 ก.ค.
ขณะที่นางเอลเลน แม่วัย 40 ปี และ ด.ญ.อเล็กซานดรา น้องสาววัย 4 ขวบ นอนหลับอยู่ถัดจากอาคารตั้งหม้อน้ำ พร้อมนายเจอร์รี พ่อวัย 42 ปี โชเฟอร์แท็กซี่รถสามล้อ เสาหลักของครอบครัวที่ล้มป่วยจนไม่สามารถทำงานได้ และไม่มีรายได้ ครอบครัวจึงถูกขับออกจากบ้านเช่า
The little girl holds the coat over her head covering her schoolbook so it doesn’t get damaged. Elaine’s father had lost his job after becoming ill and unable to work as a tricycle taxi driver
ทั้งที่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ด.ญ.อีเลนยังตั้งใจทำการบ้านให้เสร็จ โดยใช้เสื้อโค้ตคลุมตัวเพื่อกันหนังสือเปียกฝนที่ตกลงมา และพยายามกดหน้าหนังสือเรียนไว้ไม่ให้ลมกรรโชกพัดปลิว
นายโรนัลโด วิลลานูเอวา ชาวบ้านที่เดินผ่านไปมาเห็นและอัดคลิปวิดีโอไว้ โดยด.ญ.อีเลนบอกว่า “หนูต้องการทำการบ้านให้เสร็จและเรียนให้ดีที่โรงเรียนค่ะ หนูจะได้มีงานดีๆ ดูแลตัวเองและครอบครัว หนูต้องการทำงานของครูให้เสร็จค่ะ”
The little girl holds the coat over her head covering her schoolbook so it doesn’t get damaged. Elaine’s father had lost his job after becoming ill and unable to work as a tricycle taxi driver
นายโรนัลโดกล่าวว่า เด็กหญิงตัวเล็กคนนี้เป็นแรงบันดาลใจเตือนสังคมถึงความสำคัญเรื่องการได้รับการศึกษาของเด็กอย่างจริงจังและอย่าเพิกเฉยต่อเรื่องนี้
“ผมจะเปิดคลิปนี้ให้ลูกดูเพื่อระลึกถึงความสำคัญของการไปโรงเรียนและโชคดีแค่ไหนที่ได้รับการศึกษาดีๆ ด.ญ.อีเลนจะประสบความสำเร็จในชีวิตครับ ผมมั่นใจ เธอมุ่งมั่นตั้งใจและฉลาดอย่างยิ่ง เธอไม่มีบ้านและไม่มีที่ไหนสะดวกสบาย แต่เธอยังให้ความสำคัญเรื่องทำการบ้าน ช่างสร้างแรงบันดาลใจอย่างยิ่งครับ” นายโรนัลด์กล่าว
