สลด! ทารกกินนมแม่แล้วตาย ตำรวจชี้พบ “สารกระตุ้น” เหตุแม่ติดยาแก้ปวด

แม่ติดยาแก้ปวดเดอะวอชิงตันโพสต์ รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 3.00 น. วันที่ 2 เม.ย. ซาแมนธา วิทนี โจนส์ วัย 30 ปี แม่ของ อาร์เจ เด็กชายวัย 11 สัปดาห์ ได้ตื่นขึ้นมาให้นมลูกเนื่องจากลูกร้องไห้เสียงดัง ก่อนที่ 5 ชั่วโมงต่อมา อาร์เจจึงเสียชีวิตลง อัยการกล่าวว่าสาเหตุของการเสียชีวิตคือ “มียาที่เป็นสารกระตุ้น” ในน้ำนมของโจนส์

วันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา โจนส์ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม อาร์เจ ลูกชายของเธอ ผลชันสูตรพลิกศพเปิดเผยว่าเลือดของทารกมีสารเมทาโดน แอมเฟตามีน และเมทแอมเฟตามีน โดยสารดังกล่าวมีฤทธิ์ต่อระบบประสาท สามารถใช้เป็นยารักษา และเป็นส่วนประกอบของสารเสพติด

ในขณะที่การสอบสวนยังคงดำเนินอยู่ต่อเนื่อง เป็นไปได้ที่โจนส์อาจเผชิญข้อกล่าวหาที่มีโทษจำคุกตลอดชีวิต คริสติน แมคเอิลรอย รองอัยการเขตบัก กล่าวในแถลงการณ์จากสำนักงานอัยการสูงสุด ว่าการประกันตัวของโจนส์ถูกตั้งไว้ที่เงินสด 3 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 1 ร้อยล้านบาท

ทารก แม่ติดยาแก้ปวด ตาย

ซาแมนธา วิทนี โจนส์

ตามคำให้การของโจนส์ ในช่วงเช้าของวันที่ 2 เมษายน โจนส์บอกตำรวจว่า “เหนื่อยมาก” จนลงไปชงนมให้อาร์เจลูกชายของเธอไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงให้นมลูกด้วยน้ำนมของตัวเอง แต่เธอบอกว่างีบหลับไปโดยไม่รู้ตัวและไม่แน่ใจว่าอาร์เจดื่มนมจริงหรือไม่ เมื่อเวลาประมาณ 6.00 น. สามีของโจนส์เข้ามาพบโจนส์และอาร์เจ โจนส์กำลังนอนหลับอยู่และอาร์เจกำลังร้องไห้

หลังจากที่โจนส์ตื่นขึ้นมา เธอได้ขอให้สามีของเธอชงนมให้ลูก จากนั้นเธอก็ใช้นมนั้นป้อนลูกชายและวางเขาไว้ในเปลเด็ก โจนส์เดินกลับไปนอนและตื่นอีกครั้งประมาณหนึ่งชั่วโมงต่อมา เธอจึงเดินไปดูอาร์เจแล้วพบว่าเขาตัวซีดและไม่หายใจด้วย มีเมือกและเลือดไหลออกมาจากจมูกของเขา

โจนส์รีบตะโกนเรียก เชอรีล โจนส์ แม่ของเธอ ที่อาศัยอยู่ในบ้าน และกดโทรเรียกตำรวจ ขณะที่เชอรีลเริ่มทำการซีพีอาร์ปั๊มหัวใจช่วยชีวิตอาร์เจ ไม่กี่นาทีต่อมาตำรวจก็มาถึงและพบว่าอาร์เจหัวใจหยุดเต้น

อาร์เจถูกนำส่งโรงพยาบาลดอยเลสทาวน์ ที่อยู่ไกลไม่เกิน 10 กิโลเมตรจากบ้านของเธอ แต่มันก็สายเกินไป อาร์เจถูกประกาศว่าเสียชีวิตในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลเมื่อเวลาประมาณ 8.30 น.

โจนส์บอกตำรวจว่าปกติเธอให้นมลูกจากเต้านมของเธอ แต่เพิ่งเปลี่ยนเป็นนมผงชงให้เขาไม่กี่วัน เพราะเธอกังวลว่าอาร์เจไม่ได้รับนมเพียงพอจากน้ำนมของเธอและทำให้เขานอนไม่หลับ ตำรวจวิเคราะห์ส่วนปรกอบของนมผงในขวดที่โจนส์ให้อาร์เจดื่มในเช้าวันที่เขาเสียชีวิต และไม่พบส่วนประกอบของสารเสพติดผิดกฎหมาย

ซาแมนธา วิทนี โจนส์ ขณะเดินทางขึ้นศาลเมื่อวันที่ 13 ก.ค. รูปภาพจาก ทวินซิตี

ในช่วงเวลาที่อาร์เจเสียชีวิต โจนส์กล่าวว่าเธอกินยาเมทาโดน ซึ่งเป็นยาระงับอาการปวด และโจนส์เคยได้รับคำแนะนำให้รักษา “อาการติดยาแก้ปวด” เจ้าหน้าที่สืบสวนระบุว่าโจนส์ยังได้รับยาในขณะที่เธอตั้งครรภ์ด้วย

ตามบทความที่เผยแพร่เมื่อ พ.ศ.2551 ในวารสาร แคนาเดียนแฟมิลี่ฟิสิเชียน ระบุว่าผู้หญิงที่ใช้ยาเมทาโดนในการรักษาไม่ควรถูกกีดกันในการให้นมลูก

“ข้อดีของการให้นมบุตรมีมากกว่าความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยในทางทฤษฎี” บทความกล่าว

อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลเมเทอร์มาเทอร์ในออสเตรเลีย กล่าวว่า สารกระตุ้นเช่นยาแอมเฟตามีน หรือเมทแอมเฟตามีน ถูกคิดว่า “ถ้าปนเปื้อนในนมแม่อาจเป็นเหตุให้ทารกเกิดความหงุดหงิดและรบกวนการนอนหลับของทารกได้” และให้คำแนะนำแก่แม่ว่าไม่ควรให้นมลูกเป็นเวลา 24 ถึง 48 ชั่วโมงหลังจากใช้ยาประเภทนี้

เคยมีกรณีที่ทารกเสียชีวิตจากการได้รับยาเมทแอมเฟตามีนผ่านนมแม่ เมื่อ พ.ศ. 2545 เอมี่ พรีน แม่ของเด็กชายวัยสามเดือน ถูกตั้งข้อหาฆาตกรรมโดยไม่เจตนาหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าลูกชายของเธอได้รับยา เมทแอมเฟตามีนเกินขนาด ผ่านน้ำนมของแม่ และเมื่อ พ.ศ. 2555 แม่ของเด็กวัย 6 สัปดาห์ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ถูกสั่งจำคุกหกปี หลังจากให้ลูกดื่มน้ำนมที่มีสารเมทแอมเฟตามีนเป็นส่วนผสม

เมื่อวันที่ 13 ก.ค. ที่ผ่านมา ทนายความโจนส์ กล่าวว่าโจนส์ “ได้รับความเจ็บปวดจากการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่มนุษย์คนหนึ่งจะได้รับ” เขากล่าวว่าความตายของเด็กเป็น “อุบัติเหตุร้ายแรง” แต่ไม่ใช่การฆาตกรรม การพิจารณาคดีเบื้องต้นสำหรับโจนส์ได้รับการกำหนดไว้ในวันที่ 23 ก.ค. ตามบันทึกของศาล

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน