จ่อเปลี่ยนข้อหาเพิ่มโทษ ‘สามใบเถา’วางแผนฆ่าพ่อขัง-ขืนใจในบ้านสยอง
จ่อเปลี่ยนข้อหาเพิ่มโทษ – เว็บไซต์ ไลฟ์ ของรัสเซียรายงานวันที่ 30 ก.ค. ว่า น.ส.มาเรีย วัย 17 ปี น.ส.แองเจลีนา วัย 18 ปี และน.ส.คริสตีนา ฮาชาตูเรียน วัย 19 ปี สามสาวพี่น้อง ผู้ต้องสงสัยร่วมกันฆ่านายมีฮาอิล ฮาชาตูเรียน วัย 57 ปี บิดาบังเกิดเกล้า ถูกเบิกตัวจากห้องขังมารับฟังการพิจารณาคดีที่ศาลเขตออสตันคีโน กรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ คณะกรรมการสอบสวนแห่งชาติรัสเซียแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา พร้อมยื่นคำร้องฝากขังสามสาวพี่น้องต่อศาล ขณะที่สื่อรายงานว่า แม่ของสามสาวพี่น้องเดินทางมารับฟังการพิจารณาคดีที่ศาลเพื่อให้กำลังใจลูกสาวของตัวเองด้วย
สำหรับการพิจารณาคดี ศาลยังไม่ตัดสินว่า น.ส.มาเรีย น.ส.แองเจลีนา และน.ส.คริสตีนา จะถูกฝากขังหรือไม่ แต่ขยายเวลาควบคุมตัวอีก 72 ช.ม. เพื่อให้พนักงานสอบสวนสามารถรวบรวมหลักฐาน หรือระบุรายละเอียดเพิ่มเติมของคดี เพื่อยื่นให้ศาลพิจารณาต่อไปได้
ในเบื้องต้นมีข้อมูลว่า น.ส.แองเจลีนา วัย 18 ปี และน.ส.คริสตีนา วัย 19 ปี อาจถูกฝากขังระหว่างการพิจารณาคดีและถูกส่งไปเรือนจำ
ส่วน น.ส.มาเรีย วัย 17 ปี น้องสาวคนเล็กสุด ได้รับการพิจารณาแบบปิด เนื่องจากยังไม่บรรลุนิติภาวะ อาจได้รับการปล่อยตัวอีก 72 ช.ม. นับจากนี้ เนื่องจากพนักงานสอบสวนไม่พบหลักฐานที่สามารถพิสูจน์ได้ว่า น.ส.มาเรียมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุปิตุฆาตจริง
สำนักข่าว อินเตอร์แฟ็กซ์ ของรัสเซียรายงานอ้างคำพูดของนางอันนา เซลีวานอฟ โฆษกศาลเขตออสตันคีโน ว่า สามสาวพี่น้องแห่งฮาชาตูเรียนรับสารภาพความผิด และให้การในชั้นศาลว่า มีความเกลียดชังส่วนตัวกับบิดาบังเกิดเกล้าที่ทำให้พวกตนได้รับความทุกข์ทรมานทางใจมาเป็นระยะเวลานาน
อ่านต่อ:
บ้านสยอง! ‘สามใบเถา’วางแผนฆ่าพ่อคลั่งยา-ขัง-ซ้อม-ขืนใจ
รายงานระบุว่า คณะกรรมการสอบสวนแห่งชาติรัสเซียเปลี่ยนข้อหาต่อสามสาวพี่น้องแห่งฮาชาตูเรียน จากข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา (ตามวรรค 1 มาตรา 105 แห่งประมวลกฎหมายอาญารัสเซีย) ซึ่งมีโทษจำคุก 6-15 ปี มาเป็นข้อหาสมรู้ร่วมคิดฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ซึ่งมีโทษจำคุก 8-20 ปี (ตามวรรค 2 มาตรา 105)
อีกด้านหนึ่ง สำนักข่าว มอสควา ของรัสเซียรายงานอ้างแหล่งข่าวเจ้าหน้าที่ ระบุว่า ระหว่างการปฏิบัติงานในจุดเกิดเหตุ ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า น.ส.มาเรียใช้มีดแทงพ่อไม่ต่ำกว่า 35 แผล ตรงบริเวณคอและลำตัว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นบริเวณท้อง ขณะที่น.ส.แองเจลีนา ใช้มีดแทงไม่ต่ำกว่า 10 แผล ตรงศีรษะ ส่วนน.ส.คริสตีนาฉีดแก๊สพริกไทยกระป๋องใส่หน้าพ่อ หลังจากนั้นคว้ามีดจากมือน.ส.มาเรียแทงเข้าที่หัวใจพ่อ
นอกจากนี้ น.ส.คริสตีนาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหลังจากถูกพ่อใช้มีดแทง แพทย์ตรวจร่างกายพบแผลถูกแทงที่ต้นขาและมีรอยฟกช้ำที่ต้นขาและปลายแขน
ด้านเทเลแกรมแชนเนล 112 ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า สามสาวพี่น้องใช้มีดแทงและค้อนทุบหัวพ่อขณะนั่งหลับบนโซฟา ลูกสาวคนหนึ่งใช้มีดแทงเข้าลำคอพ่อจนมิดด้าม ก่อนลงมือมีการปิดกล้องวงจรปิดที่พ่อติดตั้งไว้ในอพาร์ตเมนต์เพื่อเฝ้าติดตามพฤติกรรมของลูกสาวสามคน สำหรับจำนวนแผล มี 6 แผลตรงคอ, 2 แผลตรงหัวใจ, 3 แผลตรงท้อง และอีกหลายแผลตามปลายแขนและทรวงอก
วันเดียวกัน แมช รายงานว่า คณะกรรมการสอบสวนแห่งชาติรัสเซียกำลังดำเนินการตรวจสอบตำรวจหมู่บ้านอัลโตเฟียโว หลังเกิดเหตุปิตุฆาต เนื่องจากผู้ตายมีพฤติกรรมข่มขู่ชาวบ้านไปทั่ว แต่ตำรวจเหมือนมีท่าทีไม่เข้ามาจัดการปัญหาที่เกิดขึ้น
เพื่อนบ้านเผยว่า นายมีฮาอิลเป็นคนเอาใจแต่ตัวเองและไม่เกรงกลัวใคร เช่น จอดรถตามใจตัวเองแต่ผิดที่ผิดทางและใช้อาวุธปืนขู่เพื่อนบ้าน และเคยทำร้ายผู้หญิงด้วย เมื่อตำรวจรุดมาที่เกิดเหตุก็แค่ยักไหล่และกลับไป
เพื่อนบ้านเผยด้วยว่า นายมีฮาอิลขายยาเสพติดอย่างโจ่งแจ้งตรงลานอพาร์ตเมนต์และทางเดินบันได โดยผ่านมือคนค้ายา เพื่อนบ้านแจ้งตำรวจแล้วแต่ก็ไม่ทำอะไร ขณะที่นายมีฮาอิลเองเดินรอบลานอพาร์ตเมนต์ ประกาศตัวเองในทำนองเป็นมาเฟียว่า ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเองหมดแล้ว
ก่อนหน้านี้ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ คอมโซมอลสกายา ปราฟดา ของรัสเซียรายงานว่า นายมีฮาลีส่งคลิปเสียงถึงลูกสาวสามคนไม่นานก่อนเสียชีวิต โดยวันนั้น นายฮาชิค พี่ชายวัย 21 ปี พร้อมเพื่อนอีกคน เดินทางมาเยี่ยมน้องสาวทั้งสามคน เมื่อน้องสาวบอกพ่อว่าพี่ชายมาเยี่ยม พ่อมีอาการบ้าคลั่ง โดยกล่าวหาในทำนองว่า ลูกสาวทั้งสามคนขายตัวให้กับพี่ชายตัวเอง จะฆ่าทิ้งและต้องการไม่ให้เป็นบาป
“พวกแกเป็นกะหรี่ จะตายแบบกะหรี่ หากกล้าขายตัว พวกแกจะเสียใจ แม่แกไม่ยังกล้าเลย พวกแกไม่มีเวลาเสียใจด้วยซ้ำ” ส่วนหนึ่งของคลิปเสียงที่นายมีฮาอิลส่งขู่ลูกสาวสามคน โดยยังเรียกลูกสาวคนหนึ่งว่า “กะหรี่วัย 14” และ “สวะ”
นายฮาชิคให้สัมภาษณ์กับ แมช ว่า ตนไม่เข้าข้างน้องสาวที่ก่อเหตุปิตุฆาต และไม่เชื่อว่าน้องสาวจะกระทำเพื่อป้องกันตัวเอง พร้อมติงสื่อว่าจงใจสร้างภาพลักษณ์ของพ่อของตนไปในทางเสียหาย อย่างไรก็ตาม นายฮาชิคปฏิเสธที่จะพูดว่าความจริงทั้งหมดแล้วคืออะไรกันแน่
เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ มอสคอฟสกี คอมโซโมเลตส์ ของรัสเซียรายงานว่า นายฮาชิกไม่ทราบว่าน้องสาวมีความเป็นอยู่อย่างไรในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เนื่องจากพ่อตนขับไล่ออกจากบ้านตั้งแต่อายุ 16 ปี จึงไม่เชื่อกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และไม่ทราบว่า พวกเธอเจออะไรบ้าง และไม่เข้าใจกับคนเชื่อเรื่องราวพวกนี้
อ่านต่อ: