พม่าจมบาดาล หลังเขื่อนแตก ทีมกู้ภัยทุลักทุเล น้ำท่วมถนนถูกตัดขาด
พม่าจมบาดาล – เมื่อวันที่ 30 ส.ค. เอเอฟพี รายงานความคืบหน้าเหตุอุทกภัยร้ายแรง หลังน้ำทะลักล้นสันเขื่อนสวาร์ซวงที่มีความจุประมาณ 20,000 ลูกบาศก์เมตร ไหลบ่าเข้าท่วมชุมชนที่เขตพะโค ภาคกลางของประเทศพม่า ว่าสถานการณ์ยังยากลำบากอยู่มาก
เจ้าหน้าที่กู้ภัย รวมถึงทหาร เผชิญอุปสรรคทางพื้นที่ที่เสียหายจากอุทกภัย การนำเรือเข้าไปอพยพและช่วยเหลือชาวบ้านที่เดือดร้อนกว่า 63,000 คน โดยเฉพาะพื้นที่ห่างไกล เป็นไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจากเส้นทางถูกน้ำโคลนหลากท่วม
TOPSHOT – A resident walk in a village submerged by flood waters from Swar Chaung Dam in Swar township in Bago region on August 30, 2018. (Photo by Ye Aung THU / AFP)
เหตุการณ์ครั้งนี้ถือเป็นเหตุน้ำทะลักสันเขื่อน ต่อเนื่องจากกรณีเขื่อนแตกที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนชาว หรือสปป.ลาว เมื่อวันที่ 23 ก.ค. ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก พบศพแล้ว 35 ราย และสูญหายนับร้อย สาเหตุมาจากอิทธิพลของพายุมรสุมก่อให้เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง
TOPSHOT – Myanmar soldiers use a boat to help residents cross a flooded area in Swar town of Bago region on August 30, 2018. (Photo by Ye Aung THU / AFP)
ชาวบ้านที่อยู่อาศัยในเขตพะโคต่างตื่นตกใจกับเหตุอุทกภัยที่เกิดขึ้นเนื่องจากไม่เคยพบฝนตกหนักขนาดนี้มาก่อน ขณะที่ฝนตกหนักที่เกิดขึ้นยังทำให้สะพานบนทางหลวงนครย่างกุ้ง-มัณฑะเลย์เกิดรอยแตกร้าว ทำให้ทางการพม่าต้องเร่งส่งหน่วยเฉพาะกิจเข้าซ่อมแซมอย่างเร่งด่วนสร้างความโกลาหลให้กับการจราจร
TOPSHOT – Flood victims ride a farm vehicle in Yedashe township, Bago region. (Photo by Ye Aung THU / AFP)
วันเดียวกัน อิทธิพลของพายุมรสุมยังส่งผลให้เกิดฝนตกต่อเนื่องที่ค่ายพักพิงชั่วคราวของชาวมุสลิมโรฮิงยาในเมืองค็อกซ์-บาซาร์ ประเทศบังกลาเทศ ตรงข้ามพรมแดนรัฐยะไข่ของพม่า ท่ามกลางแรงกดดันจากนานาชาติที่ต้องการนำผู้รับผิดชอบกองทัพพม่าไปสอบสวนกรณีปฏิบัติการทางทหารในรัฐยะไข่อาจเข้าข่ายฆ่าล่างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงยา
อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :
