พม่ามีหลักนิติธรรม! “ซูจี” แจงจำคุก 2 นักข่าวแฉปมโรฮิงยา เพราะทำผิดกฎหมายมั่นคง

พม่ามีหลักนิติธรรม – เมื่อวันที่ 13 ก.ย. เอเอฟพีรายงานว่า จากกรณีศาลนครย่างกุ้ง ประเทศพม่า ตัดสินจำคุกนายว้า ลอน อายุ 32 ปี และนายจอ โซ อู อายุ 28 ปี สองนักข่าวสังกัดรอยเตอร์ เป็นเวลา 7 ปี เพราะครอบครองภาพถ่ายหลุมศพและการสังหารหมู่ชายชาวโรฮิงยา 10 คนในหมู่บ้านอินดิน รัฐยะไข่ เมื่อเดือนธ.ค.2560

ตอกย้ำข้อกล่าวหาของสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ต่อปฏิบัติการทางทหารของกองทัพพม่าว่าเข้าข่ายการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ส่งผลให้นางออง ซาน ซู จี ที่ปรึกษาแห่งชาติและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ผู้นำรัฐบาลประชาธิปไตยพม่าเผชิญแรงกดดันหนักหน่วง

ล่าสุด นางซูจีกล่าวตอบโต้ในการประชุมเศรษฐกิจโลกเกี่ยวกับอาเซียน ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ว่า นักข่าวทั้งสองคนยังมีสิทธิขอยื่นอุทธรณ์และได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมแล้ว แต่นางซูจีกล่าวยอมรับว่า สถานการณ์ความรุนแรงในรัฐยะไข่นั้นมีหลายอย่างที่รัฐบาลพม่าควรจะรับมือได้ดีกว่าที่เป็น ท่ามกลางกระแสประณามจากนานาชาติ และยูเอ็น ที่ประณามพม่าว่ากำลังใช้หลักนิติธรรมและศาลเป็นเครื่องมือในการทำสงครามต่อต้านผู้สื่อข่าว

“นักข่าวทั้งสองคนเค้าไม่ได้ถูกตัดสินโทษเพราะเป็นนักข่าวนะคะ เขาได้รับโทษเพราะทำผิดกฎหมายด้านความมั่นคง” และว่าคดีที่เกิดขึ้นเป็นสิ่งที่สะท้อนว่าพม่านั้นเป็นประเทศที่ปกครองบนพื้นฐานของหลักนิติธรรม นอกจากนี้ นางซูจียังกล่าวโทษทางการบังกลาเทศว่าเป็นต้นเหตุที่ทำให้การรับตัวผู้อพยพชาวโรฮิงยากลับสู่พม่านั้นล่าช้า เพราะฝ่ายบังกลาเทศขาดความพร้อมเอง

ขณะที่รายงานระบุว่า แม้ฝ่ายพม่าจะแสดงท่าทีว่ามีความพร้อมแต่ผู้อพยพชาวโรฮิงยาส่วนใหญ่ที่หนีตายไปบังกลาเทศกว่า 7 แสนคนนั้นปฏิเสธที่จะเดินทางกลับรัฐยะไข่ เนื่องจากทางการพม่ายังคงปฏิเสธที่จะให้สิทธิความเป็นพลเมืองกับชาวโรฮิงยา ทั้งยังปฏิเสธที่จะเรียกชาวโรฮิงยา แต่กลับเรียกว่า เบงกาลี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน