จีนแค้นสหรัฐแก้เผ็ด ขายอุปกรณ์การทหารให้ไต้หวัน จี้ถอนก่อนสายไป

จีนแค้นสหรัฐแก้เผ็ด – เมื่อวันที่ 25 ก.ย. เอพี รายงานสถานการณ์ตึงเครียดในการเผชิญหน้าระหว่างสองมหาอำนาจสองซีกโลกที่ขยายวงเพิ่มมาจากศึกการค้า เมื่อรัฐบาลจีนแถลงว่าไม่พอใจอย่างยิ่งต่อการที่สหรัฐอเมริกาประกาศความพร้อมที่จะขายอะไหล่ยุุทโธปกรณ์ทางทหาร มูลค่า 330 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 10,890 ล้านบาท ให้กองทัพไต้หวัน ทั้งที่รู้ว่าจีนตีตราไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีน

FILE – แฟ้มภาพ เครื่องบินรบเอฟ-16 ของไต้หวัน

จีนเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกแผนการขายอุปกรณ์ทางการทหารดังกล่าว ไม่เช่นนั้นจะสร้างความเสียหายร้ายแรงต่อความสัมพันธ์สองประเทศ ไปจนถึงความร่วมมือที่ญาติดีต่อกัน

นายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า แผนการขายอาวุธดังกล่าวละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักพื้นฐานในการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ดังนั้นจึงขอให้สหรัฐยุติแผนดังกล่าว และหยุดติดต่อกับไต้หวัน ไม่เช่นนั้นจะสร้างความเสียหายร้ายแรงระหว่างจีน-สหรัฐ ไปจนถึงสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน

แฟ้มภาพ กองทัพเรือของไต้หวัน AP Photo/Chiang Ying-ying)

ส่วนกระทรวงกลาโหมจีน แถลงคล้ายกันว่า แผนการขายนี้แทรกแซงกิจการภายใน และสร้างผลเสียต่ออธิปไตยและความมั่นคงของจีน

ก่อนหน้านี้ รัฐบาลสหรัฐของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ระบุว่าอนุมัติการจำหน่ายอะไหล่และส่วนประกอบอื่นๆ สำหรับเครื่องบินรบ เอฟ-16 และเครื่องบินกองทัพอื่นๆ แก่ไต้หวัน เพื่อปรับปรุงศักยภาพในการป้องกันตนเอง และสร้างสมดุลทางการทหารในภูมิภาคเอเชีย

จีนแค้นสหรัฐแก้เผ็ด

A US-made F-16 fighter jet launches flares during a drill above the sea near the Suao navy harbour in Yilan, eastern Taiwan, on April 13, 2018. / AFP PHOTO / SAM YEH

แผนการขายอาวุธของสหรัฐให้ไต้หวันยังถูกมองว่าต้องการงัดข้อกับจีนที่เพิ่งซื้อเครื่องบินรบ ซู-35 จากรัสเซีย พร้อมด้วยระบบยิงขีปนาวุธจากรัสซีย

สำหรับกระบวนการทางการเมืองของสหรัฐ ตอนนี้สมาชิกสภาคองเกรสยังมีเวลาอีก 30 วันที่จะคัดค้านการขายสินค้าดังกล่าวของรัฐบาลแก่ไต้หวัน

ด้านไต้หวัน แถลงยินดีกับคำประกาศของสหรัฐ และว่า การซื้อขายครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพการป้องกันตนเองของไต้หวัน และช่วยรักษาเสถียรภาพและสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน ซึ่งรัฐบาลจะเพิ่มการลงทุนด้านกลาโหมต่อไป พร้อมกับติดต่อสื่อสารและร่วมมือกับไต้หวัน

อ่านข่าวก่อนหน้านี้ :

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน