หลงทางเกือบ 3 สัปดาห์ ลุง-สุนัขเอาตัวรอดในผืนป่าไทกาแห่งไซบีเรีย
หลงทางเกือบ 3 สัปดาห์ – หลงทางอยู่ในป่าไทกานานถึง 18 วัน แต่นึกไม่ถึงว่าจะได้กลับบ้านมาพบหน้าคนในครอบครัวอีกครั้ง วิคเตอร์ วีโนกราดอฟ ลุงวัย 65 ปี พร้อมเจ้า ทอร์ สุนัขพันธุ์บูลเทอร์เรียร์คู่ใจ เดินเข้าไปในป่าในเขตไซบีเรีย แต่ไม่สามารถออกมาได้ จำต้องเอาตัวรอดท่ามกลางอากาศค่อนข้างเย็น
ลุงวิคเตอร์จูงเจ้าทอร์ออกจากบ้านพักที่หมู่บ้านปอดกอร์นืย ทางใต้ของเมืองเชเลซโนกอร์ ดินแดนครัสโนยาร์สค์ เดินเข้าไปในป่าในละแวก ตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค. แต่เนื่องด้วยเป็นพื้นที่ไม่คุ้นเคย อีกทั้งสภาพอากาศมีเมฆเป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นอุปสรรคต่อการสำรวจพื้นที่
กว่าที่ครอบครัวจะทราบว่าลุงวิคเตอร์หายตัวไป เวลาล่วงเลยไปหลายวันแล้ว ภรรยาลุงเดินทางจากตัวเมืองครัสโนยาร์สค์ มายังบ้านพักเมื่อวันที่ 6 ต.ค. และสังเกตว่า เตาแก๊สในบ้านพักไม่ร้อนมาหลายวันแล้ว แปลว่าสามียังไม่กลับบ้าน และจะต้องเกิดอะไรขึ้น จึงแจ้งหน่วยงานประกาศคนหายในวันนั้น
“พ่อดิฉันลาพักร้อนและต้องการไปพักผ่อนที่บ้านพักค่ะ เย็นวันอาทิตย์ที่ 7 ต.ค. พวกเราโทร.หาพ่อแต่ไม่สามารถติดต่อได้ พวกเราไม่วิตกกังวลอะไร เพราะเคยเป็นแบบนี้มาก่อนแล้ว พ่อลืมชาร์จแบตเตอรี่มือถือและหายไปไหนสักแห่งหนึ่งแล้วกลับมาบ้านค่ะ” ตาเจียนา ลูกสาวลุงวิคเตอร์ กล่าว
ตำรวจ เจ้าหน้าที่กู้ภัย อาสาสมัคร และชาวบ้านที่เป็นห่วงเป็นใย รวมกว่า 300 ชีวิต พร้อมเฮลิคอปเตอร์ และโดรนติดกล้องถ่ายภาพความร้อน ออกตระเวนติดตามหาลุงวิคเตอร์เป็นระยะทางกว่า 124 กิโลเมตร แต่กลับคว้าน้ำเหลว ไม่มีใครคิดว่า ลุงวิคเตอร์จะสามารถเดินออกไปไกลได้มากกว่านี้แล้ว
อีก 2 สัปดาห์ผ่านไป ปฏิบัติการค้นหายุติลง ความหวังที่จะพบลุงวิคเตอร์มีชีวิตแทบหมดสิ้น แต่ครอบครัวพยายามคิดแง่ดีและภาวนา หลายคนหันไปพึ่งพาคนทรงเจ้าเพื่อชี้ทางสว่าง แต่คำตอบที่ได้รับกลับไม่ให้ความหวังใดๆ
กระทั่งวันที่ 21 ต.ค. ลุงวิคเตอร์เดินออกจากป่าไทกาด้วยตัวเองในสภาพขาลาก พร้อมเจ้าทอร์ มายังพื้นที่หมู่บ้านคุสคุน ขอให้ชาวบ้านติดต่อญาติพี่น้องให้ และพบกับครอบครัวอีกครั้งในที่สุด
“แม่โทร.มาบอกตอนเช้าว่า พ่อติดต่อได้แล้วและยังมีชีวิตอยู่ แม่กับพี่ชายเดินทางไปยังโรงเลื่อยไม่ไกลจากหมู่บ้านคุสคุน ดิฉันคิดว่า พ่อจะอยู่ในสภาพซีดเซียว ผอมแห้ง ผมเผ้ารุงรัง เสื้อผ้าฉีกขาด และรองเท้าชำรุด แต่พ่อยังมีชีวิตและไม่ได้รับอันตรายใดๆ เจ้าทอร์ด้วยค่ะ”
-
คลาดกัน-เจ้าหน้าที่กู้ภัยไม่เห็นลุง
ขณะนี้ลุงวิคเตอร์อยู่ในโรงพยาบาล แต่ยังถ่ายทอดสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเองขณะหลงทางในป่าไทกาเกือบ 3 สัปดาห์ ลุงวิคเตอร์เล่าว่าตั้งใจเดินเข้าไปในป่าในละแวกเพื่อหาเห็ดเก็บ จึงไม่ได้เอาอะไรติดตัวไปด้วย นอกจากไม้ขีดไฟกล่องหนึ่ง
ลุงวิคเตอร์เล่าว่า โทรศัพท์มือถือตอนแรกไม่สามารถค้นหาสัญญาณได้ จากนั้นเครื่องดับไป ขณะที่ตัวเองเชื่อว่าเลือกทางกลับบ้านถูกต้องแล้ว แต่ยิ่งเดินยิ่งไกลออกไปเรื่อยๆ และทราบว่าเจ้าหน้าที่กำลังค้นหาอยู่ หลังได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ของกระทรวงสถานการณ์ฉุกเฉินบินผ่าน แต่กลับไม่สามารถส่งสัญญาณให้นักบินเห็นพิกัดได้
-
เบอร์รี่-ยางไม้-หนูย่าง: อาหารประทังชีพในป่าไทกา
“ผมเดินไปทางทิศใต้ของป่าไทกา เจออะไรแย่ๆ ไม่มีเรี่ยวแรง ไม่มีอาหารกิน เดินผ่านพื้นที่ชุ่มน้ำ คิดไม่ออกว่าจะไปทางไหน ผมกับเจ้าทอร์กินเบอร์รี่ เคี้ยวยางไม้ และดื่มน้ำจากแอ่งประทังชีวิต”
เมื่ออาทิตย์อัสดง ลุงวิคเตอร์นำ กิ่งต้นสน และ ต้นเฟอร์ มาก่อเป็นกระโจม นอนกอดเจ้าทอร์เพื่อสร้างความอบอุ่น และเหตุการณ์ไม่คาดฝันคือเจอแม่หมีและลูกหมี โชคดีที่เจ้าทอร์ไม่สังเกตพวกมันและไม่ส่งเสียงเห่า จึงไม่ตกเป็นเหยื่อโอชะของหมีสองแม่ลูก
ผ่านไป 1 สัปดาห์ โชคดีที่เจอกระท่อมหลังหนึ่ง มี น้ำมันดอกทานตะวัน อาหารกระป๋อง และ ไม้ขีดไฟ เก็บไว้เป็นจำนวนมาก ลุงวิคเตอร์จับ หนู และย่างให้เจ้าทอร์กิน พักผ่อนในกระท่อมหลายวัน จึงออกเดินไปตามทางกลับบ้านตัวเองต่อ โดยมีไม้ขีดจุดไฟและน้ำมันพืชสำหรับจิบลื่นคอแก้หนาว
-
‘เสียง’แห่งโชค
หลายวันผ่านไปอีก โชคเข้าข้างอีกครั้ง ลุงวิคเตอร์ได้ยินเสียงตัดไม้ตรงชายขอบป่าไทกา ซึ่งเป็นหมู่บ้านคุสคุน จึงรีบเดินตามไปยังต้นตอเสียง และขอใช้โทรศัพท์ของคนตัดต้นไม้เพื่อติดต่อคนทางบ้าน สิ้นสุดระยะเวลา 18 วัน กับการเดินทางอีกกว่า 50 กิโลเมตร ในผืนป่าไทกา
“ตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่าไทกา พ่อไม่เคยสิ้นหวัง เมื่อรู้สึกแย่จะร้องเพลงและนึกถึงครอบครัว ทำให้พ่อมีพลังใจสู้ค่ะ” ตาเจียนากล่าว
-
ถึงบ้านวันเดียว-ร่างกายแทบอ่อนเพลีย
ในวันที่ลุงวิคเตอร์และเจ้าทอร์กลับบ้าน ยังมีชีวิตชีวาและพลกำลัง แต่ผ่านไปแค่วันเดียว (24 ต.ค.) ทั้งคู่กลับอ่อนเพลียอย่างรุนแรง ครอบครัวพาลุงวิคเตอร์ส่งโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจร่างกาย ระหว่างการหลงเข้าไปในป่าไทกา ลุงวิคเตอร์ผอมลง 16 ก.ก.
ส่วนเจ้าทอร์ผอมลง 14 ก.ก. สุนัขยังอ่อนแอมาก ขาดน้ำอย่างรุนแรง และไม่ยอมกินอาหาร จำเป็นต้องเสียบสายน้ำเกลือที่คลินิกสัตวแพทย์
-
ผ่าตัดฉุกเฉินเจ้าทอร์อาการสาหัส
สำหรับความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (25 ต.ค.) เจ้าทอร์ต้องเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉิน ภายหลังอยู่ในผืนป่าไทกาพร้อมกับเจ้าของนานถึง 18 วัน เนื่องจากแพทย์ตรวจพบ ลำไส้อุดตัน
ต่อมา อาสาสมัครแจ้งว่า สัตวแพทย์ดำเนินการผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว คาดว่าเจ้าทอร์จะต้องพักฟื้นที่คลินิกสัตวแพทย์สักระยะหนึ่ง
ถอดความและรวบรวมจากรายงานข่าว AIF – NGS24 – NTV – TVK6
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: สกู๊ปพิเศษ : 4 ขวบรัสเซียหลงป่า โฮ่ง “ฮีโร่” ช่วยรอดชีวิต