ลูกชายนักข่าวซาอุฯ ไปอเมริกาแล้ว หลังพ่อถูกฆ่าสะท้านโลก
ลูกชายนักข่าวซาอุฯ – ซีเอ็นเอ็น รายงานวันที่ 25 ต.ค. ว่า องค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรต์ วอตช์ เปิดเผยถึงความเคลื่อนไหวสำคัญอีกด้านในคดีนายจามาล คาช็อกกี นักข่าวอิสระชาวซาอุดีอาระเบีย และคอลัมนิสต์วอชิงตันโพสต์ ถูกสังหารในสถานกงสุลซาอุฯ ประจำนครอิสตันบูล ประเทศตุรกี ว่านายซาลาห์ คาช็อกกี ลูกชายผู้ตายและสมาชิกครอบครัว เดินทางไปยังสหรัฐอเมริกาทันที หลังจากคำสั่งห้ามออกนอกประเทศของทางการยกเลิก
ซาลาห์เป็นลูกชายคนโตของจามาล คาช็อกกี เพิ่งจะมีภาพถ่ายเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน และมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน พร้อมรายงานข่าวว่าสองพระองค์ตรัสแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของนายคาช็อกกี หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ
อย่างไรก็ตาม ยาห์ยา อัสสิรี เพื่อนสนิทของนายซาลาห์ ให้สัมภาษณ์สื่อมิดเดิล อีสต์ อาย ว่าการเข้าเฝ้าดังกล่าว เป็นแรงกดดันต่อครอบครัวนายซาลาห์ให้ช่วยปกปิดอาชญากรรมในคดีนี้ด้วย
ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนคดี อัยการซาอุดีอาระเบียเปิดเผยว่า จากข้อมูลที่แลกเปลี่ยนกับทีมสอบสวนของตุรกี ยอมรับแล้วว่าการสังหารนายคาช็อกกี เมื่อวันที่ 2 ต.ค. เป็นแผนการที่ไตร่ตรองและเตรียมการล่วงหน้า จากเดิมที่เจ้าหน้าที่ฝั่งซาอุฯ ระบุว่านายคาช็อกกีถูกอุ้มเพื่อจะนำตัวกลับประเทศ แต่เกิดอุบัติเหตุพลาดพลั้งจนตาย
การเปลี่ยนแปลงท่าทีและข้อมูลของฝ่ายซาอุฯ เกิดหลังจากมีรายงานว่าทีมของตุรกีแสดงหลักฐานเป็นเทปเสียงนายคาช็อกกีถูกทารุณจนตายรวมถึงคลิปวิดีโอให้นางจีนา แฮสเพล ผู้อำนวยการสำนักงานข่าวกรองแห่งชาติสหรัฐ หรือซีไอเอ รับทราบแล้ว และนางแฮสเพลจะเข้ารายงานรายละเอียดต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
ด้านนายเมฟลุต คาวูโซกลู รมว.ต่างประเทศตุรกี กล่าวว่า ยังมีประเด็นคำถามอีกมากที่ยังต้องการคำตอบเกี่ยวกับเหตุฆาตกรรมที่วางแผนกันมา และขอให้ซาอุฯ อธิบายมาว่าเหตุใดจึงจับกุมบุคคลต้องสงสัย 18 ราย และใครเป็นผู้บงการ ศพเหยื่ออยู่ที่ใด ในเมื่อยอมรับแล้วบุคคลกลุ่มนี้เป็นผู้ลงมือ เพราะครอบครัวผู้เสียชีวิตต้องการรู้และจะได้ทำพิธีเคารพศพเป็นครั้งสุดท้าย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :