จ่อคุก 48 ปี ตั้ง 5 ข้อหามือส่งระเบิดพัสดุ สติกเกอร์โปรทรัมป์แปะหรารถตู้!

จ่อคุก 48 ปี – เมื่อวันที่ 27 ต.ค. บีบีซีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสหรัฐอเมริกาตั้งข้อหา นายซีซาร์ ซายก ผู้ต้องสงสัยอยู่เบื้องหลังการส่งวัตถุระเบิดไปยังบุคคลสำคัญทางการเมืองและดาราดังที่มีจุดยืนทางการเมืองต่อต้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ท่ามกลางองศาการเมืองท้องถิ่นที่กำลังร้อนแรงก่อนการเลือกตั้งมิดเทอมในวันที่ 6 พ.ย.นี้

อ่านข่าวก่อนหน้า: จับแล้วมือส่งระเบิดพัสดุ ใครเป็นอริทรัมป์โดนหมด เขย่าขวัญทั่วอเมริกา

ขณะที่จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า นายซายกนั้นเป็นบุคคลที่มีจุดยืนทางการเมืองนิยมในตัวนายทรัมป์ และต่อต้านพรรคเดโมเครติก หรือเดโมแครตอย่างรุนแรง นายเจมส์ แคล็ปเปอร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองกลางสหรัฐ หรือซีไอเอ ระบุว่า ถือเป็นการก่อการร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย อาจส่งผลให้นายเซย็อกได้รับโทษจำคุกสูงถึง 48 ปี

รายงานระบุว่า เจ้าหน้าที่เข้าจับกุมนายซายกได้ที่รัฐฟลอริดา และถูกตั้งข้อหารวม 5 กระทง ในจำนวนนี้ รวมถึงการส่งวัตถุระเบิดในพัสดุภัณฑ์ และข่มขู่อดีตประธานาธิบดีของสหรัฐ หลังอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา ตกเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่นายซายกส่งระเบิดไปให้ทางไปรษณีย์

เจ้าหน้าที่พบพัสดุที่ซุกซ่อนวัตถุระเบิดแล้ว 14 กล่อง ในจำนวนนี้ ส่งไปให้ นายจอร์จ โซรอส นักลงทุนฉายาพ่อมดการเงินของโลก นายโรเบิร์ต เดอ เนโร ดาราฮอลลีวู้ดชื่อดัง นางฮิลลารี คลินตัน อดีตรมว.ต่างประเทศสหรัฐ อดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเด็น นายจอห์น เบร็นเนน อดีตผอ.ซีไอเอ นายเอริค โฮลเดอร์ อดีตรมว.ยุติธรรม ตลอดจนสำนักข่าว ซีเอ็นเอ็น ที่นายทรัมป์มักโจมตีว่าเป็น ข่าวปลอม หรือเฟกนิวส์

นอกจากนี้ พบรถตู้สีขาวของนายเซย็อก ติดโปสเตอร์สนับสนุนนายทรัมป์และนายไมก์ และติดโปสเตอร์ต่อต้านนักการเมืองในพรรคเดโมแครต เช่น นายโอบามา และนางคลินตัน แล้วมีวงกลมสีแดงยิงเป้าปะหน้า รวมทั้งติดสติกเกอร์โจมตีซีเอ็นเอ็น วอชิงตันโพสต์รายงานอ้างผู้จัดการร้านพิซซา อดีตนายจ้างของนายซายก ว่า นายซายกเกลียดคนผิวดำ คนยิว และคนชอบเพศเดียวกัน

ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งก่อนหน้านี้ออกมาประณามความรุนแรงดังกล่าว และสร้างความมึนงงให้บรรดาสื่ออเมริกันด้วยการออกมาเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรงต่อสื่อทั้งที่ก่อนหน้านี้นายทรัมป์นั้นมีท่าทีโจมตีสื่อมาอย่างต่อเนื่อง กลับลำมาวิจารณ์สื่ออีกครั้ง กล่าวหาว่า สื่อมวลชนหลายแห่งกำลังฉกฉวยโอกาสจากคดีที่เกิดขึ้นเพื่อทำลายภาพพจน์ของฝ่ายริพับลิกัน

“การนำเสนอข่าวยังไม่เป็นกลาง แฝงไปด้วยอคติ เพื่อสร้างภาพเชิงลบของสื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้คนทำไม่ดี และบ่อนทำลายการถกเถียงกันอย่างมีเหตุผล” และว่า “ในช่วงที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุ พวกเราได้เห็นการกระทำของบรรดาสื่อที่พยายามในกรณีที่เกิดขึ้นมาทำลายความนิยมต่อตัวผมและพรรครีพับลิกัน” นายทรัมป์ทวีต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน