คดีพี่น้องสองสาวดับสลด ส่อเค้าจบชีวิตตนเอง สะท้อนชะตาหญิงสาวซาอุฯ
คดีพี่น้องสองสาวดับสลด – เอพี รายงานวันที่ 11 พ.ย. ถึงความคืบหน้าการสอบสวนคดีพี่น้องสองสาวชาวซาอุดีอาระเบียในสหรัฐอเมริกา ถูกพบร่างไร้ลมหายใจ ริมฝั่งแม่น้ำฮัดสัน ในนครนิวยอร์กพร้อมกัน เมื่อ 24 ตุลาคม ส่อเค้าเป็นการจบชีวิตตนเอง สะท้อนชะตากรรมของหญิงสาวชาวซาอุฯ ที่ไม่มีโอกาสเลือกเส้นทางเดินชีวิตของตนเองมากนัก ไม่ว่าจะอยู่ในราชอาณาจักร หรือนอกประเทศ
ผู้ตายชื่อ ทาลา ฟาเรอา อายุ 16 ปี และ โรทานา ฟาเรอา อายุ 23 ปี หนีออกจากบ้านมาพรัอมกันจากเมืองแฟร์แฟ็กซ์ รัฐเวอร์จิเนีย เมื่อถูกตามตัวได้ จึงไปอาศัยยังสถานพักพิงชั่วคราว พร้อมเปิดเผยว่าที่หนีออกมาเพราะทำร้ายที่บ้าน จากนั้นจึงมุ่งหน้ามานครนิวยอร์ก และเข้าพักที่โรงแรมระดับไฮเอนด์ พร้อมใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตของโรทานา ฝ่ายพี่สาว
การสอบสวนคดีนี้ยังไม่เสร็จสิ้น แต่สิ่งที่เจ้าหน้าที่พอเปิดเผยได้คือศพทั้งสองใส่เสื้อผ้าตามปกติ ไม่พบสัญญาณของความตื่นกลัวใดๆ ขณะที่มีเทปพันทั้งสองติดกัน
เดอร์มอนต์ เชีน หัวหน้าทีมสอบสวนของตำรวจนิวยอร์ก เปิดเผยว่า ผู้คนที่รู้จักสองพี่น้องนี้ให้ข้อมูลตำรวจมาว่า ทั้งสองเคยบอกว่า พวกตนยอมทำร้ายตัวเอง ฆ่าตัวตาย ดีกว่าถูกส่งกลับไปซาอุดีอาระเบีย
คดีดังกล่าวสะท้อนว่า หญิงชาวซาอุฯ ที่หลบหนี พยายามเลี่ยงระบบผู้คุ้มกันที่ต้องถูกควบคุมโดยชาย ไม่ว่าพ่อ สามี พี่ชาย หรือลูกชาย เพราะหากจะเดินทางไปไหน ต้องได้รับการอนุญาตจากสมาชิกในครอบครัวที่เป็นชาย
FILE – sisters Rotana, left, and Tala Farea (NYPD via AP, File)
อดัม คูเกิล จากกลุ่มฮิวแมนไรต์วอตช์ให้ข้อมูล ว่า ระบบคุ้มกันสตรีดังล่าว ทำให้หญิงสาวถูกทำร้ายทางกายและถูกทำร้ายทางเพศ จากที่เคยพบผู้หญิงเหล่านี้ หลายคนพยายามหนี นอกจากนี้ยังมีกรณีที่หลายคนถูกบังคับให้แต่งงาน แม้จะไม่เต็มใจเลยก็ตาม
กรณีที่หญิงเหล่านี้หลบหนีจากบ้านแล้วถูกจับได้ จะต้องถูกส่งกลับบ้าน หรือไปอยู่สถานพักพิง จากนั้นก็จะพยายามหนีอีก ถ้าถูกขังคุก ก็มีเพียงผู้คุ้มกันชายเท่านั้นที่จะลงนามให้ปล่อยตัวได้
อ่านข่าวอื่นเกี่ยวกับสตรีซาอุฯ :
