“อองซานซูจี” โดนอีก สหรัฐประณามจังๆ วิกฤตโรฮิงยาไม่มีข้อแก้ตัว

“อองซานซูจี” โดนอีก – วันที่ 14 พ.ย. เอเอฟพี รายงานถึงการกดดันจากประชาคมโลกต่อวิกฤตโรฮิงยา ระหว่างหารือทวิภาคีระหว่างสหรัฐกับเมียนมาช่วงประชุมอาเซียนซัมมิตที่ประเทศสิงคโปร์ ว่า นายไมก์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประณามเมียนมากรณีใช้ความรุนแรงและการเลือกปฏิบัติต่อชาวโรฮิงยา นั้นไม่อาจจะแก้ตัวใดๆ นี้

ท่าทีของสหรัฐดังกล่าวนับเป็นการเพิ่มแรงกดดันจากชุมชนระหว่างประเทศ ต่อเนื่องจากที่แอมเนสตี อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศถอดถอนรางวัลทูตแห่งมโนธรรมสำนึกที่เคยมอบให้นางออง ซาน ซู จี ผู้นำพม่า และกรณีที่นางซู จี เผชิญกับคำพูดทิ่มแทงจากนายมหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในการประชุมระหว่างผู้นำอาเซียนเมื่อวันที่ 13 พ.ย.

นายเพนซ์ซึ่งนั่งติดกับนางออง ซาน ซู จี ผู้นำพม่า กล่าวว่า กังวลเกี่ยวกับสิ่งที่ได้รู้มาเกี่ยวกับความคืบหน้าที่ในการจับกุมตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ สำหรับการจำคุกนายว้า โลน และนายจอ โซ สองนักข่าวรอยเตอร์ 7 ปี ในความผิดรายงานข่าวโรฮิงยา ครอบครองเอกสารความลับทางการนั้น เป็นเรื่องที่น่ากังวลใจอย่างยิ่ง เพราะตามอุดมการณ์หลักของชาวอเมริกัน สื่อต้องได้รับเสรีภาพ

ก่อนหน้านี้ คณะสอบสวนข้อเท็จจริงของสหประชาชาติระบุว่า การกระทำของกองทัพเมียนมาเทียบเท่าการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เรียกร้องให้ดำเนินคดีกับนายพลอาวุโสมิน อ่องไหล่ ผู้บัญชาการสูงสุดเมียนมา หลังจากการปราบปราม ทำให้ชาวโรฮิงยาอพยพหนีจากรัฐยะไข่ ข้ามฝั่งมาประเทศบังกลาเทศเพื่อนบ้านราว 700,000 คน เมื่อปลายส.ค.ปีที่แล้ว

ส่วนความคืบหน้าการส่งกลับชาวโรฮิงยาไปเมียนมา หลังล่าช้ากว่าแผนมานานนั้น ในวันพฤหัสบดีที่ 15 พ.ย. แผนที่จะส่งกลับชาวโรฮิงยาคืนเมียนมามีกำหนดเริ่มขึ้นอีกครั้ง กลุ่มแรกเป็นชาวโรฮิงยาประมาณ 2,000 คน ทั้งๆ ที่มีคำเตือนถึงความปลอดภัยว่าอยู่ในระดับอันตรายหากถูกบีบให้กลับไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน